ทะเลแดงสมรภูมิรบใหม่ สหรัฐฯ ระดมพันธมิตรปกป้องคลองสุเอซ
สถานการณ์ตะวันออกกลางมีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้น หลังกบฏฮูตีขู่โจมตีเรือทุกลำที่มุ่งหน้าอิสราเอล โดยพบว่ามีเรือ บรรทุกน้ำมันเชิงพาณิชย์ลำหนึ่ง ซึ่งติดธงนอร์เวย์ถูกกบฏฮูตียิงขีปนาวุธทำลายเสียหาย ด้านสหรัฐฯ เร่งมองหาพันธมิตรตั้งกองกำลังพิเศษเพื่อปกป้องเรือพาณิชย์ในทะเลแดง
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะขยายภารกิจของกองกำลังร่วมทางทหาร 153 (Combined Task Force 153) ที่มุ่งเน้นภารกิจทางทหารในทะเลแดงและอ่าวเอเดน เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังร่วมทางทะเล (Combined Maritime Forces) ที่มีประเทศสมาชิก 39 ชาติและมีสำนักงานใหญ่อยู่ในบาห์เรน อาทิ บราซิล เดนมาร์ก ญี่ปุ่น จอร์แดน คูเวต ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเกาหลี สิงคโปร์ ตุรกี สหราชอาณาจักร
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของชาติตะวันตกว่า อาจเกิดเหตุโจมตีเรือบริเวณนอกชายฝั่งเยเมนเพิ่มมากขึ้น หลังเพิ่มโจมตีเรือสินค้า3ลำ และล่าสุดกบฏฮูตียังขู่โจมตีเรือทุกลำที่มุ่งหน้าอิสราเอล หากชาวกาซ่าไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ตามรายงาน กบฏฮูตี มีกำลังทหารประมาณ 200,000 นาย ยังมีขีปนาวุธประเภทต่างๆ (ระยะทาง 2,000 กม.) โดรน UAV, ทุ่นระเบิดในทะเล ,เรือพลีชีพ และแม้แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศ
หลายชาติพันธมิตร สหรัฐฯ ได้ส่งเรือรบมายังตะวันออกกลาง เรือรบฝรั่งเศส “ลอง-เกอ-ด็อก” (Languedoc) ที่อยู่ในทะเลแดงได้สกัดและยิงทำลายโดรนไม่ทราบฝ่ายสองลำ ที่มุ่งตรงไปที่เรือรบของฝรั่งเศส
ขณะที่ กองทัพเรืออังกฤษส่งเรือรบลำที่ 2 คือ เรือพิฆาต เอชเอ็มเอส ไดมอนด์ (HMS Diamond) ไปยังอ่าวเปอร์เซีย เพื่อลาดตระเวนทางเรือร่วมกับเรือฟริเกต เอชเอ็มเอส แลงคาสเตอร์ (HMS Lancaster) ซึ่งเป็นเรือรบลำแรกที่ส่งไปยังอ่าวเปอร์เซียตั้งแต่ปีที่แล้ว พร้อมกับเรือกวาดทุ่นระเบิดของกองทัพเรืออีก 3 ลำ
รัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษ ระบุว่า มีความจำเป็นที่อังกฤษจะต้องส่งเรือรบไปเสริมภารกิจในอ่าวเปอร์เซียในระยะนี้ เพื่อรักษาความมั่นคงทางทะเล ป้องปรามการปล้น รักษาผลประโยชน์ของอังกฤษในตะวันออกลาง และส่งสัญญาณถึงอิหร่านและพันธมิตร เช่น กบฏฮูตีของเยเมนและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน ไม่ให้เข้ามาช่วยเหลือกลุ่มฮามาสในการสู้รบกับอิสราเอล
เมื่อคืนวันจันทร์(11 ธ.ค.) โฆษกกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน อ้างว่าได้ยิงจรวดโจมตี เรือน้ำมันชื่อ สตรินดา (STRINDA) ของนอรเวย์ในทะเลแดง จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากช่องแคบ บับ อัล-มันเดบ ที่เชื่อมระหว่างทะเลแดงกับอ่าวเอเดนออกไปทางเหนือประมาณ 111 กิโลเมตร ส่งผลให้เรือเกิดไฟไหม้ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยเรือพิฆาตยูเอสเอส เมสัน (USS Mason)ติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีของสหรัฐฯ ต้องเข้าให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ กบฎฮูตี ระบุว่า เรือลำดังกล่าวปฏิเสธไม่ยอมปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่ฮูตี
ด้านสำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า อิสราเอลมีแผนเตรียมส่งเรือรบขนาดเล็กแบบ คอร์เวต์ ซาอาร์ 6 ที่มีระบบซีโดม (C-Dome) แบบเดียวกันกับไอรอนโดม (Iron Dome) ไปประจำการนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศ เพื่อรับมือการยิงจรวดโจมตีของกลุ่มกบฎฮูตี และคำขู่ที่จะโจมตีเรือทุกลำที่แล่นผ่านน่านน้ำของเยเมนในทะเลแดงมุ่งหน้ามายังท่าเรืออิสราเอล
การประกาศ โจมตีเรือพาณิชย์ทุกลำ ของกบฏฮูตี รวมทั้งปิดช่องแคบบาบุลมันดับ ( Bab al-Mandab ) ทางน้ำยุทธศาสตร์เชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน มีระยะความกว้างทะเลเพียง 30 กิโลเมตร มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์สำหรับชาติตะวันตก เพราะมีการขนส่งน้ำมันสี่ล้านบาร์เรลในแต่ละวัน ถือเป็นทางเดินเรือขนส่งน้ำมันที่สำคัญของโลก
อีกทั้งมีผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจของอิสราเอล เพราะหากต้องเปลี่ยนเส้นทางเรือจากทะเลแดงอ้อมไปทางอื่น จะเสียหายถึง3 พันล้านดอลลาร์ การที่กลุ่มฮูตีพยายามปิดการค้าทางทะเลระหว่างประเทศสำหรับอิสราเอล ทำให้สถานการณ์คลองสุเอซกำลังตกอยู่ในอันตราย!
ข้อมูลและภาพ รอยเตอร์ ,วอชิงตันโพสต์,ซินหัว
เรียบเรียงโดย นัฐทวี ชลีโสภณ