Twitter (X) ในยุคของ “อีลอน มัสก์” มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
ไม่มีอีกแล้วสำหรับ "นกฟ้า" แอพยอดฮิตที่ใครๆ ก็ต้องมี หลังจากการ "อีลอน มัสก์" นักธุรกิจและนักลงทุนมหาเศรษฐีสัญชาติแอฟริกาใต้-แคนาดา-อเมริกัน เข้าซื้อธุรกิจไป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในแอพพลิเคชั่น
ไม่มีอีกแล้วสำหรับ "นกฟ้า" แอพยอดฮิตที่ใครๆ ก็ต้องมี หลังจากการ "อีลอน มัสก์" นักธุรกิจและนักลงทุนมหาเศรษฐีสัญชาติแอฟริกาใต้-แคนาดา-อเมริกัน เข้าซื้อธุรกิจไป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในแอพพลิเคชั่น วันนี้ทาง TNN Online ไม่พลาดขอหยิบเอาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาให้ได้ติดตามกัน
ภาพประกอบจาก : Freepik
1. เปลี่ยนชื่อ โดยจากชื่อเดิมจาก Twitter ที่มีความหมายเหมือนเสียงร้องของนกที่ร้องจ้อกแจ้ก เปลี่ยนเป็น X ทำเอาแฟนๆ ทั่วโลกถึงกับตกใจกับการกล้าที่จะตัดสินใจเปลี่ยนครั้งใหญ่ในครั้งนี้
2. เปลี่ยนโลโก้ จากเดิมที่เคยเป็นเจ้านกฟ้าที่ใครเห็นก็ต้องจำได้ เป็นสัญญาลักษณ์ตัว X พร้อมเปลี่ยนโทนสีจากฟ้าสดใส เป็นสีดำสนิท ถือเป็นอีกหนึ่งความกล้าในการเปลี่ยนแปลงที่ตัดของเดิมทิ้งและทำเป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาแทนเลย
ภาพประกอบจาก : Freepik
3. มุ่งสู่การเป็นคอมเมอร์เชียลเป็นเต็มตัว สามารถจ่ายเงินรายเดือนเพื่อให้ได้สัญญาลักษณ์ verify ยืนยันตัวตนว่าแอคเคาท์นั้นเป็นของเราจริงๆ โดยจะต้องจ่ายเงิน $20 หรือ 760 บาทต่อเดือน และในอนาคตยังมีการ Verified Organization สีทองเพื่อยืนยันสำหรับองค์กร
4. เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ทั้งการไลฟ์สด แชร์เนื้อหาไปสู่แพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น
5. สร้างมาตรฐานในเรื่องความปลอดภัยที่มากขึ้น โดยตรวจสอบผู้เล่นที่เป็นแอคเคาท์ที่ไม่มีตัวตนจริง พร้อมทั้งยังสามารถรายงานแอคเคาท์ที่เผยแพร่ในเนื้อหาที่เป็นอันตรายกับสังคม
6. ไล่พนักงานออก โดยหลังจากการเข้ามาของ “อีลอน มัสก์” ทำให้เกิดการเลย์ออฟพนักงานเก่าออกเป็นจำนวนหลายร้อยคน เพื่อลดต้นทุนในการจ้างงาน ร่วมถึงปรับเปลี่ยนแนวทางในการเดินหน้าต่อในชื่อของ X
ถึงตอนนี้หลายคนคงได้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแอพ Twitter ที่ตอนกลายเป็น X เป็นเต็มขั้นหลังจากการเข้ามาของ “อีลอน มัสก์” กันแล้ว ซึ่งเสียงจากชาวเน็ตหลายเสียงมีทั้งชื่นชมและต่อต้านกับการกระทำครั้งนี้ของเขา บางคนพูดถึงขั้นว่าเขาตั้งใจซื้อ Twitter มาเพื่อทำลาย งานนี้ไม่รู้ว่าแอพฯ X ภายใต้การดูแลของ “อีลอน มัสก์” จะเป็นอย่างไรต่อ จะถูกพัฒนาให้ก้าวหน้าขึ้น หรือถอยหลังลงคงต้องติดตามกันต่อไป