สร้างสนามพลังให้ดาวอังคาร เตรียมพร้อมสู่การเป็นโลกใบที่ 2 แห่งอนาคต
นักวิทยาศาสตร์เผยแนวคิดในการสร้างสนามแม่เหล็กให้ดาวอังคาร เพื่อช่วยให้ดาวสามารถป้องกันตนเองจากพายุสุริยะ หวังว่าสักวันหนึ่งดาวดวงนี้อาจกลายเป็นโลกใบที่ 2 ของมนุษย์
ช่วงหลังมานี้หลายคนน่าจะได้ยินเรื่องราวภารกิจสำรวจดาวอังคารกันบ่อยขึ้น และดูเหมือนว่านักวิทยาศาสตร์ต่างมีความฝันที่จะเปลี่ยนดาวเคราะห์สีแดงนี้ให้น่าอยู่เช่นเดียวกันกับโลกของเรา ล่าสุดมีแนวคิดใหม่ที่อาจช่วยให้ดาวอังคารสามารถรักษาคุณสมบัติในการเป็นดาวเคราะห์แห่งชีวิตเอาไว้ได้แล้ว
สิ่งหนึ่งที่ทำให้โลกของเราสามารถรักษาสมดุลแห่งชีวิตเอาไว้ได้ คือสนามแม่เหล็ก ซึ่งเกิดจากการไหลเวียนของแม็กม่าในแกนกลางของโลก โดยสนามแม่เหล็กเปรียบเสมือนเกราะกำบังโลกจากพายุสุริยะที่พัดมาจากดวงอาทิตย์ อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้โลกได้รับรังสีอันตรายมากจนส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต ซึ่งผลลัพธ์จากการป้องกันพายุสุริยะของสนามแม่เหล็กจะปรากฏให้เราเห็นเป็นแสงเหนือ-แสงใต้ที่บริเวณขั้วโลกนั่นเอง
และนี่คือจุดที่เป็นปัญหาสำคัญของดาวอังคาร เนื่องจากดาวอังคารมีสนามแม่เหล็กที่อ่อนกำลังมาก ส่งผลให้มันไม่สามารถป้องกันตนเองจากการถูกรังสีและความร้อนจากพายุสุริยะได้ และนั่นเท่ากับว่าสิ่งมีชีวิตรวมถึงสารต่าง ๆ (แม้แต่น้ำในทะเลหรือลำธารที่อาจจะเคยมีอยู่บนดาวอังคาร) ที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตก็จะถูกทำลายโดยรังสีจากอวกาศ
ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงเกิดแนวคิดว่า หากเราสามารถสร้างสนามแม่เหล็กที่มีกำลังมากพอกลับคืนให้ดาวอังคาร มันก็จะน่าจะช่วยให้ดาวเคราะห์แดงนี้เอื้อต่อการดำรงอยู่ขอสิ่งมีชีวิต โดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ตั้งใจจะใช้ดวงจันทร์โฟบอส (Phobos) ของดาวอังคารในการสร้างสนามแม่เหล็กผ่านกระบวนการที่เรียกว่า "Plasma torus"
โฟบอสเป็นดาวบริวารหรือดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดของดาวอังคาร (อีกดวงหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่าชื่อว่า ไดมอส) มันใช้เวลาเคลื่อนที่รอบดาวอังคารเพียง 8 ชั่วโมง และอยู่ใกล้กับดาวอังคารมากกว่า นักวิทยาศาสตร์จะอาศัยกระบวนการของ Plasma torus โดยการทำให้อนุภาคบนพื้นผิวของโฟบอสแตกตัวเป็นไอออน
ในขณะที่โฟบอสโคจรรอบดาวแม่ อนุภาคที่แตกตัวเป็นไอออนจากผิวดวงจันทร์จะกระจายไปตามวงโคจรของดาวอังคาร ซึ่งวงโคจรที่เต็มไปด้วยไอออนนี้เองคือ Plasma torus และมีคุณสมบัติเสมือนสนามแม่เหล็กรอบดาวอังคารด้วย
หากกระบวนการนี้เป็นไปด้วยดี ดาวอังคารจะมีสนามแม่เหล็กที่มีกำลังมากพอ ในการป้องกันตนเองจากพายุสุริยะและรังสีจากอวกาศได้ จากนั้นนักวิทยาศาสตร์จะสามารถทำการปรับปรุงผิวดาวให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แม้ว่ากระบวนการสร้าง Plasma torus ยังเป็นเพียงแนวคิดหนึ่ง แต่อาจมีการประยุกต์ใช้กับดาวอังคารในอนาคตก็เป็นได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Interesting Engineering
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67