วงแหวนของดาวเสาร์เสมือน "หายไป" ชั่วคราวเนื่องจากโลกโคจรผ่านระนาบวงแหวน

วงแหวนอันเป็นเอกลักษณ์ของดาวเสาร์ (Saturn) กำลังจะ "หายไป" จากสายตาของผู้สังเกตการณ์บนโลกในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จากปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เรียกว่า "การโคจรผ่านระนาบวงแหวน" (Ring Plane Crossing) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อโลกเคลื่อนที่ผ่านระนาบวงแหวนของดาวเสาร์ ส่งผลให้วงแหวนเรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกับสายตาของเราและแทบมองไม่เห็น

ตามรายงานของเว็บไซต์ In-the-Sky.org ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2025 เวลา 12:04 น. ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา นับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2009 โดยวงแหวนของดาวเสาร์จะเอียงออกจากสายตาของผู้สังเกตบนโลกทุกช่วง 13 ถึง 15 ปี

แม้ว่าวงแหวนของดาวเสาร์จะมีความกว้างกว่า 170,000 ไมล์ หรือประมาณ 273,600 กิโลเมตร แต่มีความหนาเพียง 30 ฟุต หรือประมาณ 10 เมตร เท่านั้น จึงทำให้เมื่อวงแหวนเรียงตัวตรงกับแนวสายตา จะสะท้อนแสงได้น้อยมากและแทบมองไม่เห็น

วงแหวนของดาวเสาร์เสมือน "หายไป" ชั่วคราวเนื่องจากโลกโคจรผ่านระนาบวงแหวน

สรุปข่าว

วงแหวนของดาวเสาร์จะ "หายไป" ชั่วคราวในสุดสัปดาห์นี้จากปรากฏการณ์ "การโคจรผ่านระนาบวงแหวน" ซึ่งเกิดขึ้นทุก 13-15 ปี เมื่อโลกเคลื่อนผ่านระนาบวงแหวนจนแทบมองไม่เห็น วงแหวนจะค่อย ๆ ปรากฏชัดอีกครั้งและกลับมาสวยงามที่สุดในปี 2032

สำหรับผู้ที่อยู่ในละติจูดตอนกลางเหนือ โอกาสในการสังเกตการณ์ครั้งนี้มีน้อย เนื่องจากดาวเสาร์ปรากฏใกล้ดวงอาทิตย์ในช่วงก่อนรุ่งสางและอยู่ต่ำกว่าเส้นสุริยวิถี ในขณะที่ผู้สังเกตการณ์ในละติจูดตอนกลางใต้มีโอกาสดีกว่า แต่จะต้องแข่งขันกับแสงของขอบฟ้ายามเช้า

ดาวเสาร์ใช้เวลาประมาณ 29.4 ปี บนโลกในการโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบ โดยระหว่างวงโคจร มุมมองของวงแหวนเมื่อมองจากโลกจะเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากแกนหมุนของดาวเสาร์เอียง 27 องศา บางช่วงวงแหวนจะเอียงเข้าหาโลกจนมองเห็นได้ชัดเจน ขณะที่บางช่วงวงแหวนจะเอียงออกจากโลกจนแทบมองไม่เห็น หรือปรากฏเป็นเส้นบาง ๆ พาดผ่านจานของดาวเสาร์

วงแหวนของดาวเสาร์ประกอบด้วยน้ำแข็ง อนุภาคหิน และฝุ่นขนาดเล็ก เชื่อกันว่าเป็นเศษซากของวัตถุท้องฟ้า เช่น ดาวหาง ดาวเคราะห์น้อย หรือดวงจันทร์ที่ถูกแรงโน้มถ่วงมหาศาลของดาวเสาร์ฉีกออกเป็นชิ้น ๆ

ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา วงแหวนของดาวเสาร์ค่อย ๆ เอียงเข้าหาโลกจนถึงจุดที่บางที่สุด อย่างไรก็ตาม สภาพดังกล่าวจะเป็นเพียงช่วงเวลาชั่วคราว โดยหลังจากนี้ วงแหวนจะค่อย ๆ เอียงกลับและเริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าในปี 2032 วงแหวนของดาวเสาร์จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เอียงมากที่สุดเมื่อมองจากโลก ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสังเกตการณ์อีกครั้ง

แม้ว่าวงแหวนของดาวเสาร์จะเลือนหายไปจากสายตาในช่วงนี้ แต่ดาวเสาร์ยังคงปรากฏสว่างไสวบนท้องฟ้า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดาวเสาร์ในปีนี้จะอยู่ในช่วงที่ดาวเสาร์โคจรตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ (Opposition) ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กันยายน 2025 โดยในช่วงดังกล่าว ดาวเสาร์จะสว่างที่สุดและสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนบนท้องฟ้าของโลก

ที่มาข้อมูล : https://www.space.com/stargazing/saturns-iconic-rings-will-disappear-this-weekend-heres-why

ที่มารูปภาพ : NASA

avatar

พีรพรรธน์ เชื้อจีน