TNN ส่องความสามารถเทคโนโลยีหุ่นยนต์ AI ในต่างประเทศ | TNN Tech Reports

TNN

Tech

ส่องความสามารถเทคโนโลยีหุ่นยนต์ AI ในต่างประเทศ | TNN Tech Reports

ส่องความสามารถเทคโนโลยีหุ่นยนต์ AI ในต่างประเทศ | TNN Tech Reports

การพัฒนาหุ่นยนต์นั้นก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่เป็นเพียงระบบอัตโนมัติ หรือแค่เพียงการตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์แบบเดิมซ้ำ ๆ วนไป มาสู่การนำ AI หรือปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้หุ่นยนต์มีความฉลาด คิด วิเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง และมีความสามารถมากกว่าเดิม




หุ่นยนต์ เป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นบนโลกมานานนับหลายร้อยปี ซึ่งจวบจนปัจจุบันก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 


แน่นอนว่าด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้การพัฒนาหุ่นยนต์นั้นก้าวหน้าตามไปด้วย จากเดิมที่เป็นเพียงระบบอัตโนมัติ หรือแค่เพียงการตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์แบบเดิมซ้ำ ๆ วนไป มาสู่การนำ AI หรือปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้หุ่นยนต์นั้นมีความฉลาด คิด วิเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง และมีความสามารถมากกว่าเดิม


Ameca หุ่นยนต์เอไอคล้ายมนุษย์


อะเมก้า (Ameca) เป็นหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ หน้าตาคล้ายมนุษย์ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหุ่นยนต์ที่ล้ำสมัยมากที่สุดในโลกในเวลานี้ ซึ่งความสามารถล่าสุดนั้นไปถึงขั้น โชว์วาดภาพรูปน้องแมว พร้อมพูดอธิบายผลงานได้ แบบไม่ต้องให้มนุษย์มาควบคุม


เบื้องหลังความสามารถสุดล้ำ มาจากการที่ทีมนักพัฒนาจากบริษัท เอนจิเนียร์ อาร์ต (Engineered Arts) ได้อัปเกรดชุดความสามารถในการพูดคุยโต้ตอบหลายภาษาและการเข้าใจความหมายของคำพูดมนุษย์ภายในตัวหุ่นยนต์ จนทำให้เกิดเป็นทักษะความสามารถใหม่ขึ้นมา


จากวิดีโอจะเห็นว่า ทีมงานได้พูดคุยกับหุ่นยนต์ และป้อนคำสั่งด้วยเสียงให้หุ่นยนต์วาดภาพแมวลงบนกระดาษที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งหุ่นยนต์อะเมก้า ก็ได้วาดภาพแมว และยังพูดอธิบายความน่ารักของแมวไปในระหว่างการวาดด้วย  ทั้งยังลงลายเซ็นบนภาพ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของผลงานได้อีกต่างหาก 


ซึ่งนอกจากทักษะการวาดภาพและการอธิบายแล้ว ยังสามารถสนทนาโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น เนื่องจากได้รับการปรับแต่งโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์จีพีทีสาม (GPT-3) และจีพีทีสี่ (GPT-4) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้หุ่นยนต์สามารถเข้าใจข้อความและแสดงผลข้อความได้ดีนั่นเอง


หุ่นยนต์ภาคพื้นและบินได้ในตัวเดียว


ความฝันที่จะได้เห็นหุ่นยนต์แปลงร่างได้หลายรูปแบบอย่างในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ อาจจะไม่เกินจริง เมื่อสถาบันเทคโนโลยีสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พัฒนาหุ่นยนต์ มอร์โฟบอท (Morphobot) หรือเอ็ม 4 (M4) ซึ่งสามารถแปลงร่างเพื่อขับบนถนน และกลายเป็นหุ่นยนต์บินได้ในตัวเดียวกันได้สำเร็จ


หุ่นยนต์มอร์โฟบอท หรือ เอ็มโฟร จัดอยู่ในกลุ่มของ  หรือที่เรียกว่า ยูจีวี (UGV-Unmanned Ground Vehicle) โครงสร้างหุ่นยนต์หนักประมาณ 6 กิโลกรัม ยาว 70 เซนติเมตร ภายในติดตั้งเซนเซอร์อุปกรณ์รวบรวมข้อมูล อุปกรณ์สื่อสารสำหรับการทำงานระยะไกล ระบบอิเล็กทรอนิกส์ มอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ 


โดยจุดเด่นของหุ่นยนต์มอร์โฟบอท อยู่ที่ความสามารถในการเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อน จากการวิ่งบนพื้นคล้ายรถทั่วไป ให้กลายเป็นโหมดการบินในอากาศคล้ายกับโดรนบิน


ซึ่งเบื้องหลัง มาจากการออกแบบของนักพัฒนา ตั้งแต่วงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความซับซ้อน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และใช้อัลกอริธึมของระบบปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ เข้ามาช่วยให้การเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์มีความฉลาดขึ้น 


ปัจจุบันหุ่นยนต์ตัวนี้เป็นเพียงการวิจัยเบื้องต้น แต่ถือเป็นหนึ่งหนทางเพื่อนำไปสู่การต่อยอด ภารกิจช่วยงานมนุษย์ในอนาคต 


หุ่นยนต์พ่อครัวเอไอ


ผลงานทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) กับหุ่นยนต์พ่อครัวเอไอ ซึ่งสามารถแกะสูตรอาหารจากคลิปวิดีโอสอนทำอาหารได้ชนิดที่ว่าเมื่อดูคลิปจบ หุ่นยนต์สามารถทำอาหารตามสูตรในคลิปได้เลย !


ซึ่งทีมวิจัยลองให้หุ่นยนต์พ่อครัว ดูคลิปมนุษย์สาธิตวิธีทำอาหารทั้งหมด 16 คลิป เพื่อให้มันเรียนรู้วิธีการทำอาหารผ่านระบบคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (Computer vision) ซึ่งเป็นเอไอชนิดหนึ่ง ที่ได้รวมเอากล้อง, การประมวลผล, ซอฟต์แวร์ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เข้าใจภาพหรือวิดีโอในแบบเดียวกันกับที่มนุษย์มองสิ่งต่าง ๆ


โดยหุ่นยนต์พ่อครัว จะเริ่มจากการวิเคราะห์วิดีโอทีละเฟรม และตรวจจับว่าในวิดีโอมีวัตถุประเภทไหนอยู่บ้าง ซึ่งหุ่นยนต์สามารถแยกแยะได้ตั้งแต่วัตถุดิบ มีด ไปจนถึงแขนและใบหน้าของคนที่สาธิตวิธีการทำอาหาร


เมื่อแยกแยะวัตถุในภาพได้แล้ว ระบบจะแปลงวิดีโอและสูตรอาหารที่แกะได้จากการดูวิดีโอเป็นชุดข้อมูล ทำการคำนวณข้อมูลดังกล่าว ก่อนจะเริ่มทำอาหาร โดยที่เราไม่ต้องใส่โปรแกรมคำสั่งอื่น ๆ เช่น ปริมาณวัตถุดิบ เพิ่มเติม


ทีมวิจัยพบว่า หลังจากดูวิดีโอไปทั้งหมด 16 คลิป หุ่นยนต์พ่อครัวสามารถแกะสูตรอาหารได้ถูกต้องถึง 93% และยังตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้สาธิตมนุษย์ได้ราว 83% 



ข่าวฮิตติดแท็ก

ข่าวแนะนำ