หน้ากากวิเคราะห์การนอนหลับ ! ยกห้องทดลองมาไว้บนเตียงนอนของคุณ

สตาร์ตอัปสหรัฐโชว์ต้นแบบหน้ากากวิเคราะห์การนอนหลับคุณภาพสูงที่เปรียบดังยกห้องทดลองมาไว้บนเตียงนอนของคุณ

บริษัท โซมาไลติกส์ (Somalytics) สตาร์ตอัปในสหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการพัฒนาหน้ากากวิเคราะห์การนอนหลับที่เรียกว่าโซมาสลีพ (SomaSleep) ซึ่งช่วยให้การวิเคราะห์การนอนหลับระยะอาอีเอ็ม (REM: Rapid Eye Movement) ที่เป็นช่วงหลังการหลับลึกจนถึงก่อนตื่นนอนนั้นทำได้ง่ายมากขึ้นเหมือนยกห้องทดลองมาไว้บนเตียงนอนของผู้ใช้งาน เพียงแค่สวมใส่หน้ากากวิเคราะห์การนอนหลับก่อนนอนเท่านั้น

หน้ากากวิเคราะห์การนอนหลับโซมาสลีพ (SomaSleep) ใช้การติดตามความเคลื่อนไหวของดวงตาผู้ใช้งานขณะนอนหลับเป็นหลัก เนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อเพียงไม่กี่ส่วนที่ขยับได้ในช่วงการนอนแบบ REM โดยตรวจจับผ่านทางเซนเซอร์แบบคาปาซิทีฟ (Capasitve Sensor - ระบบตรวจจับด้วยสัญญาณไฟฟ้า) ที่พัฒนาขึ้นจากวัสดุเชิงประกอบ (Composite Material) ที่เรียกว่าคาร์บอน นาโนทิวบ์ (Carbon Nanotube) หรือโครงสร้างคาร์บอนที่เป็นวงท่อในระดับโมเลกุล จำนวน 4 ตัว เชื่อมต่อกับแผ่นโฟมนุ่มในบริเวณที่ครอบดวงตาของหน้ากาก ตัวเซนเซอร์จะสามารถตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าได้จากด้านบน ด้านล่าง ด้านซ้ายและขวาของดวงตา ระหว่างที่ผู้สวมใส่นอนหลับตลอดทั้งคืน โดยข้อมูลจากการตรวจจับทั้งหมดจะถูกส่งไปยังแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนเพื่อทำการวิเคราะห์และแสดงผลให้แก่ผู้ใช้งานทันที

ที่มารูปภาพ Somalytics

การนอนหลับในระยะอาอีเอ็ม คืออะไร ?

การนอนหลับในระยะอาอีเอ็ม (REM: Rapid Eye Movement) คือ ลักษณะการนอนหลับที่กล้ามเนื้อบางส่วนหยุดการทำงานชั่วคราว ยกเว้นกล้ามเนื้อหัวใจ, กะบังลม, กล้ามเนื้อตา และกล้ามเนื้อเรียบ ที่ร่วมกันทำหน้าที่ด้านการรับรู้ภายนอกและการรักษาสภาพชีวิตเอาไว้ โดยการหลับในลักษณะนี้มักเกิดขึ้นในช่วงหลังจากหลับลึก ซึ่งหมายถึงกลางดึกไปจนถึงเช้ามืด และมักจะมีการฝันถึงเรื่องราวต่าง ๆ ก่อนที่จะตื่นนอน การนอนหลับระยะอาอีเอ็ม (REM) นั้นส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ความจำและพัฒนาการทางสมอง การนอนหลับไม่เพียงพอในช่วงการนอนระยะ REM ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ตามมาอีกมาก ดังนั้นการวิเคราะห์การนอนหลับในช่วง REM จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ที่มารูปภาพ Somalytics

หน้ากากวิเคราะห์การนอนหลับโซมาสลีพ (SomaSleep) ยังอยู่ในขั้นตอนการสร้างตัวต้นแบบ (Prototype) ซึ่งทางบริษัทกำลังมองหาพันธมิตรทางเพื่อการพัฒนาและวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ภายในเดือนธันวาคมปีหน้า โดยวางราคาขายอยู่ที่ 199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,930 บาท และเป็นที่น่าสังเกตว่าการพัฒนานี้สอดคล้องกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ แอมเฮิส์ต (University of Massachusetts Amherst) ในสหรัฐฯ ที่กำลังทำผลิตภัณฑ์สวมใส่สำหรับการตรวจวัดคุณภาพการนอนในช่วง REM ของตนเองภายใต้รูปแบบหน้ากากที่ชื่อว่า เชสมา (Chesma Mask) ด้วยเช่นกัน