นวัตกรรมล้ำเพื่อ “สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”

“เกลียวยักษ์ปั่นไฟฟ้า” สร้างพลังงานจากน้ำทะเล 

สไปรัลลิส เอเนอร์จี (Spiralis Energy) บริษัทด้านเทคโนโลยีพลังงานทางทะเลจากสหราชอาณาจักร ได้เผยการออกแบบเครื่องผลิตพลังงานไฟฟ้าจากน้ำขึ้นน้ำลง ที่มีลักษณะคล้ายเกลียวขนาดใหญ่ ตั้งเป้าพัฒนาให้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง และเชื่อถือได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ความโดดเด่นของโครงสร้างเครื่องผลิตพลังงานนี้ คือการออกแบบให้มีลักษณะคล้าย สกรู หรือ เกลียว ขนาดใหญ่ ใช้วัสดุในการสร้างที่ทำมาจากขยะพลาสติก เพื่อลดต้นทุนในการผลิตจากการใช้วัสดุใหม่ ช่วยเสริมเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้น 

นอกจากนี้ การออกแบบเกลียวปั่นพลังงาน ยังเป็นแบบโมดูลาร์ ที่สามารถพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ทำให้หากมีชิ้นส่วนที่เสียหาย ก็สามารถถอดส่วนโมดูลาร์ออก และแทนที่ด้วยส่วนประกอบใหม่ ที่พิมพ์แบบ 3 มิติได้ ทำให้ง่ายต่อการซ่อมแซมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ห่างไกลก็ตาม

โดยปัจจุบันบริษัทยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาตัวทดสอบ และได้ติดตั้งแท่นทดสอบที่ พูล ฮาร์เบอร์ (Poole Harbor) หนึ่งในท่าเรือธรรมชาติในสหราชอาณาจักร โดยต้นแบบที่กำลังทดสอบนี้ จะมีความยาวตั้งแต่ 6 - 20 เมตร ซึ่งจะถูกทดสอบประสิทธิภาพ ก่อนขยายเป็นขนาดใช้งานจริงในอนาคต

ทั้งนี้บริษัทคาดว่า ต้นแบบเครื่องผลิตพลังงานรูปเกลียว จะสามารถให้พลังงานไฟฟ้าได้สูงสุดที่ 2.59 กิโลวัตต์ (kW) และคาดว่าในอนาคตจะ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเต็มจะให้กำลังไฟฟ้าได้มากถึง 500 กิโลวัตต์ (kW)

รถแข่งพลังไฮโดรเจนจากระบบบำบัด “น้ำเสีย”

เวสต์ทูเรซ (Waste2Race) คือแนวคิดต้นแบบรถยนต์แห่งโลกอนาคต ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฮโดรเจน ซึ่งได้จากระบบการบำบัดน้ำเสีย หวังเป็นทางเลือกของยานพาหนะที่ช่วยแก้ปัญหามลพิษของโลก โดยเป็นผลงานการพัฒนาจากทีมวิศวกรจาก วอร์ริก แมนูแฟกเจอริ่ง กรุ๊ป (Warwick Manufacturing Group - WMG) หรือแผนกการวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอร์ริก (University of Warwick) ในสหราชอาณาจักร 

เทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียเพื่อสร้างพลังงานไฮโดรเจนที่ใช้ในรถคันนี้ เป็นผลงานการพัฒนาโดยบริษัท เวสต์วอเตอร์ ฟูเอล (Wastewater Fuels) ในอังกฤษ ที่จะเปลี่ยนน้ำเสียให้กลายเป็นแหล่งพลังงานสะอาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางใหม่ในการจัดการของเสียและการผลิตพลังงานหมุนเวียน 

ส่วนในแง่ของตัวถัง ต้นแบบของรถแข่งเวสต์ทูเรซ สร้างขึ้นจากอะไหล่และชิ้นส่วนเหลือใช้ของยานยนต์ต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่อาจกลายเป็นขยะฝังกลบ โดยบางชิ้นส่วนดัดแปลงให้ใช้วัสดุที่มีความยั่งยืน เช่น ตัวถังใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์รีไซเคิล พวงมาลัยทำจากวัสดุชีวภาพ 100% ในขณะที่แบตเตอรี่ก็ใช้ซ้ำ จากการถอดชิ้นส่วนรถยนต์เก่า ๆ

สำหรับโครงการพัฒนารถแข่ง เวสต์ทูเรซ (Waste2Race) มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนในวงการแข่งรถ ในขณะเดียวกันก็สาธิตเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแบบใหม่ ที่อาจจะเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์กระแสหลัก

ศูนย์ข้อมูล AI ในฝรั่งเศส ระบายความร้อนด้วย “น้ำในเหมือง” 

การเติบโตของการใช้งานปัญญาประดิษฐ์แบบ Generative AI หรือปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ ทำให้ศูนย์ข้อมูลหลายแห่งทั่วโลกต้องเร่งหาวิธีระบายความร้อนจากการใช้ระบบประมวลผลภายในศูนย์ เช่นเดียวกันกับศูนย์ข้อมูลในฝรั่งเศส ที่เลือกใช้วิธีการระบายความร้อนแบบประหยัดน้ำ โดยการสูบน้ำจากเหมืองถ่านหินเก่า เพื่อลดการใช้ทรัพยากรน้ำที่สิ้นเปลือง

หนึ่งในศูนย์ข้อมูลที่กำลังใช้วิธีนี้ คือ ดิจิทัล เรียลลิตี้ (Digital Realty) ซึ่งอยู่ริมท่าเรือมาร์กเซย์ (Port Marseille) ของประเทศฝรั่งเศส โดยบริษัทจะทำการสูบน้ำในอัตราประมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เพื่อใช้ในการหมุนเวียน รักษาอุณหภูมิของแท่นเซิร์ฟเวอร์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 

โดยน้ำที่สูบขึ้นมานี้ เป็นน้ำจากเหมืองถ่านหินที่เต็มไปด้วยอนุภาค และไม่เหมาะกับการบริโภคของมนุษย์ น้ำจะมีอุณหภูมิคงที่ ที่ 14 องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปี ซึ่งจะสูบเข้าสู่เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนของห้องเซิร์ฟเวอร์ในระบบปิดที่เรียกว่า "River cooling" หรือวิธีการระบายความร้อน ด้วยน้ำที่ได้จากแม่น้ำ

ส่วนเหตุผลที่ศูนย์ข้อมูลต้องมีระบบระบายความร้อนก็เพราะว่า เครื่องจักรของศูนย์ข้อมูลต้องรักษาอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส และต้องรักษาความชื้นให้อยู่ที่ร้อยละ 60-80 เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด ถ้าระบบระบายความร้อนหยุดทำงาน อุณหภูมิของห้องคอมพิวเตอร์ใด ๆ ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 45 องศาเซลเซียสภายใน 10 นาที ซึ่งอาจทำให้งานหยุดชะงัก 

ดังนั้นสำหรับศูนย์ข้อมูลแล้ว ระบบระบายความร้อน จึงมีความสำคัญพอ ๆ กับระบบการจ่ายพลังงานไฟฟ้า โดยบริษัทกล่าวว่าระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำจากแม่น้ำแบบนี้ ช่วยลดความจำเป็นของการใช้เครื่องปรับอากาศที่กินพลังงาน และลดการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลลงถึงร้อยละ 20 

ที่มาของข้อมูล https://youtu.be/tTXblLdF-Z0

ที่มาของรูปภาพ https://youtu.be/tTXblLdF-Z0