TNN “ก๊าซเรือนกระจก” พุ่งทุบสถิติสูงสุดในรอบ 3-5 ล้านปี เตือนโลกจะร้อนขึ้นอีก!

TNN

สังคม

“ก๊าซเรือนกระจก” พุ่งทุบสถิติสูงสุดในรอบ 3-5 ล้านปี เตือนโลกจะร้อนขึ้นอีก!

“ก๊าซเรือนกระจก” พุ่งทุบสถิติสูงสุดในรอบ 3-5 ล้านปี เตือนโลกจะร้อนขึ้นอีก!

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ระบุ “ก๊าซเรือนกระจก” พุ่งสูงสุดทุบสถิติโลกในรอบ "3-5 ล้านปี" เตือนโลกจะร้อนมากขึ้นอีก

วันนี้( 26 ต.ค.64) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ WMO ระบุในจดหมายข่าว “ก๊าซเรือนกระจก” ฉบับล่าสุดของ WMO ว่า การสะสมตัวของก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ หรือ 

“ก๊าซเรือนกระจก” บนชั้นบรรยากาศของโลก พุ่งทุบสถิติสูงสุดในรอบ 3-5 ล้านปี

โดย เพทเทริ ทาลาส เลขาธิการ WMO กล่าวในการแถลงข่าวนี้ว่า ก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ หรือ CO2 (ซีโอทู) อยู่ในชั้นบรรยากาศของโลกมานานนับหลายศตวรรษแล้ว ครั้งสุดท้ายที่โลกเคยมีระดับความเข้มข้นของก๊าซ CO2 ในชั้นบรรยากาศที่สูงเท่ากับในระดับปัจจุบัน คือเมื่อ 3-5 ล้านปีก่อน ในเวลานั้นอุณหภูมิของโลกร้อนขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส และระดับน้ำทะเลสูงกว่าระดับปัจจุบัน 10-20 เมตร แต่ข้อแตกต่างที่สำคัญกับปัจจุบันนี้คือ เมื่อ 3-5 ล้านปีก่อนนั้น โลกยังไม่ได้มีประชากรมากถึง 7.8 พันล้านคนอย่างในวันนี้ 

โดย ก๊าซ CO2 ในชั้นบรรยากาศโลก พุ่งสูงถึงระดับ 400 ส่วนต่อล้านส่วนตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาโดยตลอดหลังจากนั้น

จดหมายข่าวล่าสุดของ WMO ระบุต่อไปว่า ระดับความเข้มข้นของก๊าซ CO2 ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหา climate change หรือ สภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลงนั้น ได้พุ่งสูงสุดทุบสถิติโลกใหม่อีกครั้งในปี 2020 ที่ผ่านมา โดยสูงกว่าระดับของก๊าซ CO2 ในยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม ถึงร้อยละ 149 นั่นหมายความว่า โลกกำลังออกนอกเส้นทางที่จะไปสู่การบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก 

WMO เตือนว่า โลกจะร้อนมากขึ้นไปอีก อุณหภูมิของโลกจะพุ่งสูงเกินกว่าเป้าหมายระดับอุณหภูมิที่กำหนดไว้ใน “ข้อตกลงปารีส” เพื่อแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง หรือ climate change ที่ขณะนี้กำลังเข้าขั้นหายนะ

ทั้งนี้ ข้อตกลงปารีสได้กำหนดเป้าหมายควบคุมอุณหภูมิของโลก ไม่ให้สูงเกินกว่า 1.5 – 2 องศาเซลเซียส ของอุณหภูมิโลกในช่วงยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม

ข่าวร้ายนี้ออกมาก่อนหน้าที่ผู้นำทั่วโลก กำลังจะประชุมแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง หรือ COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สก็อตแลนด์ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ (31 ตุลาคม)

จดหมายข่าวของ WMO ระบุด้วยว่า แม้ว่าการระบาดของโควิด-19 จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง แต่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น และไม่ได้ส่งผลลดปริมาณของก๊าซ CO2 ที่สะสมตัวอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลกอยู่แล้ว ให้ลดลงได้เลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้แนวโน้มที่ก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศโลกจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆดังที่เป็นมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมายังคงอยู่ดังเดิม


ภาพจาก reuters


ข่าวแนะนำ