ขู่ รร.เอกชน แอบหักค่าเทอมจาก "เงินเยียวยานักเรียน" อาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต
เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) พบ รร.เอกชน มีการข่มขู่และเตรียมหักเงิน "เยียวยานักเรียน" จำนวน 2,000 บาท เพื่อเป็นค่าที่ค้างการชำระค่าธรรมเนียม เตือนอย่าทำ หากพบอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต
วันนี้ (1 ก.ย.64) นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้รับการจัดสรรให้นักเรียน จำนวน 2,134,978 คน เป็นเงิน 4,269,956,000 บาท ซึ่งจากข้อมูลที่ตนตรวจสอบ พบว่ามีรายชื่อนักเรียนที่ไม่สามารถเบิกจ่ายเงิน จำนวน 2,000 บาทได้ จำนวน 5,107 คน
แบ่งเป็นกลุ่มรายชื่อซ้ำซ้อน จำนวน 73 คน ไม่ระบุห้องเรียน 37 คน กรอกข้อมูลทีหลังจากที่มีการเสนอรายชื่อ 4,622 คน เด็กครบ 3 ขวบแต่ระบุเตรียมอนุบาล 375 คน ซึ่งนักเรียนในกลุ่มนี้จะได้รับเงินต่อเมื่อมีเงินเหลือจ่ายในกรณีที่มีผู้ปกครองสละสิทธิ์ไม่รับเงิน หรือเงินที่โรงเรียนตรวจพบว่าเด็กไม่มีตัวตนและคืนกลับมา ซึ่ง สช.จะทยอยจ่ายโดยให้ไปตามลำดับเวลาที่กรอกข้อมูล
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการ คือ โรงเรียนจะต้องจัดทำข้อมูลนักเรียน ผ่านโปรแกรม Regis ของ สช. ตรวจสอบที่รับโอนเงินจาก สช./ศธจ.เข้าบัญชีโรงเรียน แจ้งช่องทางการจ่ายให้กับผู้ปกครอง ถ้ามีการสละสิทธิ์ให้รวบรวมหนังสือสละสิทธิ์จากผู้ปกครอง และตั้งผู้จ่ายเงินอย่างน้อย 2 คน โดยจะต้องมีคำสั่งแต่งตั้ง เพื่อรับผิดชอบการจ่ายเงิน
ทั้งนี้ การดำเนินการจ่ายเงินให้ผู้ปกครอง จะต้องเป็นบัญชีของโรงเรียนเท่านั้น หรือกรณีรับเงินสด จะต้องทำหลักฐานการจ่ายและผู้รับ ภายใน 15 วัน หากผู้ปกครองคนใดที่ต้องการให้โรงเรียนโอนเงินและมีค่าธรรมเนียมการโอนผู้ปกครองต้องรับสภาพจ่ายค่าธรรมเนียมดังกล่าว
"ผมรับทราบว่ามีบางโรงเรียนใช้วิธีการจ่ายเงินในรูปแบบ Drive Thru คือ ผู้ปกครองขับรถมารับเงินที่โรงเรียนใส่ซองพลาสติกไว้ให้ ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้สำหรับกรณีที่มีการร้องเรียน ว่า มีการข่มขู่จากโรงเรียน และเตรียมหักเงินจำนวน 2,000 บาท เพื่อเป็นค่าที่ค้างการชำระค่าธรรมเนียมนั้น
ผมต้องร้องขอโรงเรียนเอกชนเป็นพิเศษ เพราะการที่เราได้รับความช่วยเหลือจากรัฐไม่ง่าย และสังคมต่างจับตามอง รวมถึงมีความคาดหมายว่าเมื่อไรที่ได้รับเงิน จำนวน 2,000 บาท ก็เรียบร้อยโรงเรียนเอกชน ดังนั้นหากมีโรงเรียนใดจ่ายเงินนอกลู่นอกทาง ทำผิดกติกาถือว่าเป็นการขัดคำสั่ง ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เช่น การสั่งหยุดกิจการ สั่งเพิกถอนใบอนุญาต เป็นต้น" เลขาธิการ กช.กล่าว