"ชัชชาติ" เตรียมเปิดแอปฯให้ประชาชนร่วมปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น
"ชัชชาติ" ผู้ว่าฯกทม.เผยเตรียมเปิดแอปพลิเคชัน ให้ประชาชนร่วมลงทะเบียนในโครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นกับกรุงเทพมหานคร
วันนี้ (3 ก.ค.65) เวลา 08.15 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับนางซาราห์ เทเลอร์ (H.E. Dr. Sarah Taylor) เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทยและผู้แทนจากหอการค้าไทย-แคนาดา นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ระหว่างกรุงเทพมหานครและสถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เพื่อสนับสนุนโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุงของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และฉลองเนื่องในโอกาสวันชาติแคนาดา (วันที่ 1 กรกฎาคม) รวมจำนวนทั้งสิ้น 130 ต้น และรับมอบต้นขวดควีนแลนด์ (Queenland Bottle Tree) จากเยาวชนที่ต้องการร่วมโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ทุกวันอาทิตย์เป็นวันปลูกต้นไม้ ซึ่งในวันนี้เป็นการปลูกต้นไม้ร่วมกับเอกอัครราชทูตแคนาดา ส่วนอาทิตย์หน้าจะร่วมปลูกกับสื่อมวลชนที่ท้าทายกันไว้ 1,000 ต้น ที่เขตบางบอน ซึ่งสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะเริ่มเปิดแอปพลิเคชันเพื่อให้ประชาชนร่วมลงทะเบียนในโครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งอาจจะปลูกคนละ 1 ต้นก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสถานที่ปลูกหรือชนิดของต้นไม้ที่จะปลูกเพราะกทม.จะดูความเหมาะสมให้
นอกจากนี้ สามารถนำเสนอได้ว่าอยากปลูกต้นไม้ชนิดไหน โดยเมื่อลงทะเบียนแล้วจะได้รหัสปลูกต้นไม้ไป และไม่ต้องรีบร้อน เพราะโครงการนี้สามารถดำเนินการได้ภายใน 4 ปี แต่เมื่อปลูกแล้วต้องร่วมดูแลไปด้วยกัน ไม่ให้เป็นภาระของเมือง ซึ่งขณะนี้โครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น และเพิ่มพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานครดำเนินการไปได้ด้วยดี
“น่าปลื้มใจมากที่กทม.ดำเนินการมาไม่ถึง 1 เดือนมีคนร่วมประสงค์ปลูกแล้ว 1,300,000 ต้น จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ในการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นกับกรุงเทพฯ ซึ่งอาจจะขยายเป็น 2 ล้านต้นในอนาคต” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
นอกจากนี้ กทม.จะดำเนินโครงการกรุงเทพฯ 15 นาที อย่างต่อเนื่อง คือการทำสวนหย่อมย่อย ๆ ให้คนกรุงเทพฯ สามารถเดินทางจากบ้านถึงสวนสาธารณะได้ภายใน 15 นาที โดยกทม.จะหาพื้นที่ที่เหมาะสม เนื่องจากสวนสาธารณะที่ดีควรเป็นสวนฯ ที่อยู่ใกล้บ้าน จะเห็นได้ว่าปัจจุบันคนเดินทางมาสวนสาธารณะใหญ่ ๆ ด้วยความลำบาก ต้องขับรถมาและอาจจะมีปัญหาเรื่องค่าน้ำมันด้วย แต่กทม.ก็จะดูแลสวนสาธารณะใหญ่ ๆ ไว้เหมือนเดิม เช่น สวนรถไฟ เป็นต้น
เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร เพราะฉะนั้นนโยบายเรื่องสิ่งแวดล้อม กทม.จะลุยกันเต็มที่เพื่อให้กรุงเทพมหานครของทุกคนดีขึ้น
ข้อมูลจาก กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์