
ข้อมูลจากการประชุมระดับชาติว่าด้วยงานป่าไม้และทุ่งหญ้า ระบุว่าจีนปลูกต้นไม้เพิ่ม 4 ล้าน 4 แสน 5 หมื่นเฮกตาร์ (ราว 27 ล้านไร่) ในปี 2567 ปรับปรุงพื้นที่ทุ่งหญ้ากว่า 3 ล้านเฮกตาร์ (ราว 20 ล้านไร่) รวมทั้งฟื้นฟูพื้นที่ที่กลายสภาพเป็นทะเลทราย 2 ล้าน 4 แสนเฮกตาร์ (ราว 15 ล้านไร่) ทำให้ความครอบคลุมพื้นที่ป่าไม้ของจีนมีสัดส่วนเกิน ร้อยละ 25 แล้ว
จีนจัดสรรเงินทุน 32,000 ล้านหยวน (ราว 149,000 ล้านบาท) ในโครงการผืนป่าแนวกันลม 3 เหนือ ซึ่งเป็นโครงการปลูกป่าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มุ่งรับมือปัญหาการกลายสภาพเป็นทะเลทรายในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือ ตอนเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเงินทุนจำนวนนี้ได้สนับสนุนโครงการ 287 โครงการ และฐานเพาะกล้าไม้ 58 แห่ง

สรุปข่าว
พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองของจีนยังมีการขยายตัว โดยย่านตึกรามบ้านช่องในเขตเมือง ร้อยละ 43.32 ปกคลุมด้วยพืชพรรณไม้ ขณะที่พื้นที่สวนสาธารณะต่อหัวประชากรอยู่ที่ 15.65 ตารางเมตร
รายงานเผยว่า ปัจจุบันมีเมืองมากกว่า 200 แห่งที่ได้รับตำแหน่ง "เมืองป่าไม้แห่งชาติ" ส่วนพื้นที่สีเขียวในหมู่บ้านต่างๆ มีสัดส่วนถึง ร้อยละ 32.01
สำนักบริหารป่าไม้และทุ่งหญ้าแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า อ่างกักเก็บคาร์บอนของจีนมีปริมาณกว่า 1,200 ล้านตันในปี 2566 และพื้นที่ป่าปลูกของจีนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลก
ทั้งนี้ มูลค่าผลผลิตรวมด้านอุตสาหกรรมป่าไม้และทุ่งหญ้าในจีนสูงกว่า 9 ล้านล้านหยวน (ราว 42 ล้านล้านบาท) ส่งผลให้จีนกลายเป็นผู้ค้า ผู้ผลิต และผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ป่าไม้รายใหญ่ที่สุดในโลก