

สรุปข่าว
"สำลักอาหาร" ทำอย่างไร? เปิดวิธีปฐมพยาบาล ขั้นตอนสำคัญยามฉุกเฉิน ลดเสี่ยงเสียชีวิต
อาหารติดคอ หรือ การสำลักอาหารเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการปฐมพยาบาลได้อย่างทันท่วงที หากมีอาการเหมือนอาหารติดคอ ให้ลองสังเกตอาการดูว่ายังสามารถไอหรือพูดได้อยู่ไหม หากยังไอหรือพูดได้ อาหารอาจไปอุดกั้นทางเดินหายใจบางส่วน แต่หากมีอาการหายใจไม่ออก พูดหรือร้องไม่มีเสียง มีอาการหน้าเขียว ปลายมือเท้าเขียว ต้องรีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือหากไม่แน่ใจวิธีปฐมพยาบาลให้รีบแจ้งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือโทร 1669

การช่วยเหลือผู้สำลักวัยผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า 8 ปี)
การช่วยเหลือ : กรณีรู้สึกตัว เพื่อนำสิ่งอุดกั้นออกและการหายใจเป็นปกติ
-ถ้าไอได้ กระตุ้นให้ไอแรงๆ
-ถ้าไอไม่ได้ : ดันใต้กะบังลม 5 ครั้ง ทำต่อเนื่องจนสิ่งอุดกั้นหลุดออก ตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างลิ้นปี่กับสะดือ
-วางนิ้วโป้งตรงลิ้นปี่ นิ้วกลางตรงสะดือ นิ้วชี้อยู่ตรงกลาง
-มืออีกข้างทำกำปั้นวางตรงโคนนิ้วชี้ ให้ด้านนิ้วโป้งแนบลำตัว
-ดึงมือที่หาตำแหน่งออกมากุมกำปั้นไว้
-ให้ผู้สำลักก้มตัวลง ผู้ช่วยเหลือกางข้อศอกออก
ห้าม! ใช้นิ้วพยายามล้วงสิ่งอุดกั้นออก

การช่วยเหลือ : กรณีหมดสติ
-ประเมินการตอบสนองและการหายใจ
-ถ้าไม่มีการตอบสนองและไม่หายใจ ให้ตะโกนขอความช่วยเหลือ
-กดหน้าอก 30 ครั้ง
-เป่าปาก 2 ครั้ง
-ทำการกดหน้าอก 30 ครั้งสลับเป่าปาก 2 ครั้ง
-ต่อเนื่องจนกว่าจะมองเห็นสิ่งอุดกั้นในปากชัดเจน จึงใช้นิ้วล้วงออก
เมื่อสิ่งอุดกั้นออกแล้ว
-ถ้าผู้สำลักยังไม่มีการ ตอบสนองและไม่หายใจ ช่วยโดยการทำ CPR
-ถ้าผู้สำลักยังไม่มีการ ตอบสนองแต่มีการหายใจ และชีพจรปกติ จัดให้นอนท่านอนที่ปลอดภัย (Recovery position)
กรณีเด็กเล็ก หรือ น้อยกว่า 1 ปี
-กรณีไม่หมดสติ ตรวจดูอาการทางเดินหายใจอุดกั้น เช่น ร้องไม่มีเสียง ไอไม่ออก
-จับคว่ำตบหลัง 5 ครั้ง สลับกับนอนหงาย กดหน้าอก 5 ครั้ง
-ใช้ฝ่ามือรองเพื่อซัพพอร์ตคอเด็กขณะตบหลัง
-ทำซ้ำจนสิ่งแปลกปลอมออกมา
-กรณีหมดสติ ให้ทำปฏิบัติการกู้ชีพ ขอความช่วยเหลือ ถ้าเห็นสิ่งแปลกปลอมค่อยดึงเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา ทำการปฏิบัติการกู้ชีพจนความช่วยเหลือมาถึง

ขอบคุณที่มา โรงพยาบาลจุฬาฯ / ศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอานามัย / RAMA CHANNEL
ภาพจาก AFP
ที่มาข้อมูล : -