
รพ.เมตตาฯ รณรงค์เชิญชวนประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของโรคต้อหินซึ่งในเดือนมีนาคมของทุกปีถูกจัดให้เป็นสัปดาห์ต้อหินโลกเพราะ “ต้อหิน” คือสาเหตุทำให้สูญเสียการมองเห็นถาวรโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักและเข้าถึงการตรวจสุขภาพตามากขึ้น กลุ่มเสี่ยงเป็นโรคต้อหิน อาทิ อายุ 40 ปีขึ้นไป มีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ มีสายตาสั้นหรือยาวมาก ป่วยเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง แนะพบจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ตรวจหาความผิดปกติและรักษาตั้งแต่ระยะแรกของโรคเพื่อป้องกันการสูญเสียการมองเห็น

สรุปข่าว
นายไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สัปดาห์โรคต้อหินโลกเป็นช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคมของทุกปีโดยสมาคมโรคต้อหินโลก (World Glaucoma Association - WGA) และสมาคมผู้ป่วยโรคต้อหินโลก (World Glaucoma Patient Association-WGPA) รณรงค์ให้ตระหนักถึงอันตรายของโรคนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุการสูญเสียการมองเห็นสูงเป็นอันดับ 2 รองจากโรคต้อกระจก ขอเชิญชวนให้ผู้ที่มีความเสี่ยงแนะตรวจคัดกรองป้องกันสูญเสียการมองเห็นจากโรคต้อหิน นอกจากนี้ได้มอบให้กรมการแพทย์ศึกษาวิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อขยายการคัดกรองโรคต้อหินให้ถึงชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต เพื่อปกป้องคนไทยจากการสูญเสีย การมองเห็นให้ได้มากที่สุด
นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า โรคต้อหินเกิดจากความผิดปกติ ของขั้วประสาทตาและเส้นใยประสาทตาโดยรอบส่งผลให้ตามัวและสูญเสียการมองเห็นได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ ความดันลูกตาสูงเกินค่าปกติ แต่ในบางรายไม่มีความดันลูกตาที่สูงก็เป็นต้อหินได้ ซึ่งเกิดจากปัจจัยร่วมอื่นๆ ซึ่งอาจตรวจพบเมื่ออาการตามัว มองไม่เห็น เมื่อมาตรวจมักจะพบว่าเป็นต้อหินซึ่งอาการก็จะอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นมากแล้ว ดังนั้นควรตรวจหาความผิดปกติและรักษาตั้งแต่ระยะแรกของโรคเพื่อป้องกันการสูญเสียการมองเห็น
นายแพทย์เอกชัย อารยางกูร หัวหน้าศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุ กล่าวเสริมว่า โรคต้อหินเป็นโรคอันตรายไร้สัญญาณเตือนของโรคล่วงหน้า สิ่งที่เราป้องกันได้คือหมั่นสำรวจตนเองและมาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพของดวงตา หากพบอาการตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยป้องกันการสูญเสียการมองเห็นจากต้อหินได้ กลุ่มเสี่ยงเป็นโรคต้อหินคือ คนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มีความดันลูกตาสูงเกินค่าปกติ มีญาติสายตรงเป็นต้อหิน สายตาสั้นหรือยาวมาก ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุทางตาผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์เป็นประจำโดยเฉพาะยาหยอดตา ซึ่งกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ควรมาพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจคัดกรองโรคอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากตรวจพบเร็วในระยะเริ่มต้นจะเพิ่มโอกาสการรักษาได้ชะลอหรือหยุดการดำเนินโรคไม่ให้กลายเข้าสู่ระยะรุนแรงที่ทำให้สูญเสียการมองเห็น
แนวทางการรักษาในปัจจุบันทำได้โดยใช้วิธีการลดความดันลูกตาเพื่อควบคุมโรคต้อหินใช้ยาหยอดตาและอาจมียากินร่วมด้วย ส่วนวิธีการผ่าตัดหรือเลเซอร์อาจจะทำในกรณีที่ต้อหินไม่สามารถควบคุมได้ โดยการใช้ยาจึงจำเป็นต้องใช้วิธีอื่นเป็นต้น ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคมนี้ได้ถูกกำหนดขึ้นเป็นวันต้อหินโลก จึงอยากให้ คนไทยตระหนักถึงความอันตรายของโรคต้อหินเพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร โรคต้อหินเป็นภัยเงียบทำลายการมองเห็นควรหมั่นสังเกตุการมองเห็นของตนเอง หากมีอาการผิดปกติ ตามัว การมองเห็นแคบลง ปวดตา ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที
ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์
ที่มารูปภาพ : Canva

Panpilai Pukahuta
(Panpilai Pukahuta)