
เราอาจเรียกได้ว่าสมองเป็นส่วนสำคัญที่ควบคุมกลไกการทำงานแทบจะทุกส่วนของร่างกายเรา เช่น ความดัน การเต้นของหัวใจ สมดุลฮอร์โมน หากสมองทำงานได้เต็มที่ สุขภาพโดยรวมของเราก็จะดีไปด้วย แต่...รู้หรือไม่ว่า มนุษย์มีอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกาย ทีทำงานเปรียบเสมือน สมองที่2 นั่นก็คือ ลำไส้ นั่นเอง
ในลำไส้นั้น ไม่เพียงแต่ประกอบไปด้วยเซลล์ประสาทจำนวนหลายล้าน แต่ยังเป็นบ้านของ จุลินทรีย์อีกล้านร้อยล้านพันล้านตัว ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมการทำงานอื่นๆ ด้วย
หน้าที่หลักของลำไส้
หน้าที่หลักๆ ของลำไส้ คือ การดูดซึมสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ที่เรารับประทานเข้าไป โดยกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นที่ลำไส้เล็ก ซึ่งเป็นอวัยวะที่รับอาหารต่อจากกระเพาะอาหาร เมื่ออาหารที่ถูกย่อยที่กระเพาะแล้ว เดินทางมาถึงลำไส้เล็ก ก็จะถูกดูดซึมสารอาหาร ผนังทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อส่งต่อไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
จากนั้นอาหารที่ไม่ถูกย่อยที่ลำไส้เล็ก หรือย่อยไม่ได้ จะถูกส่งไปยังลำไส้ใหญ่ ในรูปของกากอาหารมาแล้ว จะทำการดูดซึมน้ำจากกากอาหาร จากนั้นจึงส่งต่อกากอาหารไปยังลำไส้ใหญ่ส่วนปลายและทวารหนัก เพื่อกำจัดออกจากร่างกายในรูปอุจจาระ

สรุปข่าว
ทำไมถูกเรียกว่า สมองที่สอง?
นอกจาก หน้าที่หลักในการดูดซึมอาหารแล้ว ภายในลำไส้ยังประกอบด้วยเซลล์ประสาทและสารสื่อประสาทจำนวนมาก ทำหน้าที่เชื่อมโยงกับสมอง
อย่างที่เราจะสังเกตได้ว่า ทำไมตอนไม่มีอาหารตกถึงท้อง เราถึงรู้สึกหิว หรือ อาการปวดท้องต่างๆ หรือแม้แต่ในเหตุการณ์ความเครียดและวิตกกังวล ก็จะส่งผลถึงท้อง เช่น อาหารไม่ย่อย ไม่อยากอาหาร หมายความว่า สมองกับลำไส้ มีการสื่อสารกันตลอดเวลา
ในลำไส้ยังมีแบคทีเรียและจุลินทรีย์อีกกว่าล้านล้านชีวิตอาศัยอยู่ หรือที่เรียกว่า microbiome ความหลากหลายจุลินทรีย์เล่านี้ในลำไส้ของเราเป็นตัวบ่งบอกสุขภาพได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นระบบภูมิคุ้มกัน ความเครียด การนอน ฮอร์โมนและสารสื่อประสาท
มีงานวิจัยที่ชี้ว่า ในจำนวนจุลินทรีย์นับล้านล้านเหล่านี้ มีบางชนิดที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทและสมองด้วย
ความหลากหลายของจุลินทรีย์ลำไส้ยิ่งทำให้สุขภาพดี
การเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ให้หลากหลาย ช่วยส่งเสริมการทำงานต่างๆของร่างกาย ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้ด้วย โดยรักษาสมดุลจุลินทรีย์ที่ดี ทำได้ดังนี้
1. ดื่มน้ำให้มากขึ้นและกินอาหารที่มีเส้นใยมากขึ้น
2. ทานอาหารที่ช่วยเสริมจุลินทรีย์ โยเกิร์ตและกะหล่ำปลีดอง
3. หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่จำเป็น เพราะยาปฏิชีวนะบางชนิด ทำให้จุลินทรีย์ลดลง
4. ลดการบริโภคอาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น อาหารทอด อาหารแปรรูป เนื้อแดง ฯลฯ
5. สนับสนุนสุขภาพลำไส้โดยการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักและผลไม้ต่างๆ
ที่มาข้อมูล : wellnessdaily.com.au/ bioentist.com/ w9wellness.com
ที่มารูปภาพ : canva

Juthaluck Kae
(Juthaluck Kae)