3 สมุนไพรภูมิปัญญาไทย ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อสุขภาพ จากฝุ่นพิษPM 2.5

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ห่วง 5 กลุ่มอาการโรค ได้รับผลกระทบจากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และ โรคผิวหนัง แนะใช้สมุนไพรตามภูมิปัญญาไทยดูแลสุขภาพ เช่น มะขามป้อม ขมิ้นชัน รางจืด รวมถึงอาการผด ผื่น และอาการคันทางผิวหนัง แนะนำ สมุนไพรว่านหางจระเข้ บัวบก   โลชั่นพญายอ พลู และ ขี้ผึ้งพญายอ เพื่อใช้ทาบรรเทาอาการอักเสบทางผิวหนัง 

3 สมุนไพรภูมิปัญญาไทย ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อสุขภาพ จากฝุ่นพิษPM 2.5

สรุปข่าว

นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตามนโยบาย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าดำเนินการแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั่วประเทศ ถือเป็นวาระสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขสืบเนื่องจากรัฐบาลมีข้อสั่งการให้มีการเตรียมการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเร่งด่วนในทุกกระทรวง


ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงสนับสนุนการใช้สมุนไพรตามภูมิปัญญาไทยในการดูแลตัวเองในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคผิวหนัง ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 มีอนุภาคขนาดเล็กมาก สามารถหลุดผ่านขนจมูกเข้าสู่ร่างกาย ก่อให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ การอักเสบในอวัยวะต่างๆ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการกำเริบของโรคเรื้อรังดังกล่าวได้ ดังนั้น การนำสมุนไพร เช่น มะขามป้อม บรรเทาอาการไอ บรรเทาอาการระคายคอ ขมิ้นชัน และชาชงรางจืด ต้านการอักเสบของร่างกาย 


สำหรับปัญหาผิวหนังที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 เช่น ผด ผื่น และอาการคัน ควรใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบ เช่น ว่านหางจระเข้ บัวบก โลชั่นพญายอ ส่วนอาการผิวหนังอักเสบหรือผื่นลมพิษควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพลู หรือ ขี้ผึ้งพญายอ ใช้ทาบรรเทาอาการ ผื่น แพ้ คัน และการอักเสบของผิวหนัง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยา หรือ ร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไป 

ด้าน ดร.ภญ.ดวงแก้ว ปัญญาภู รองผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กล่าวถึงสรรพคุณ และวิธีการใช้สมุนไพรทั้ง 3 ชนิด โดยระบุว่า 

1.รางจืด โดดเด่นเรื่อง การแก้พิษ ล้างพิษ  ต้านการอักเสบของร่างกาย สามารถนำมาใช้ได้ 2 -3 กรัม วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร ข้อควรระวัง ผู้ป่วยที่รับประทานยาอื่นประจำ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก ผู้ป่วย ตับ ไต ต้องใช้อย่างระมัดระวัง และ ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน 

2.มะขามป้อม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดการอักเสบ การระคายเคือง บรรเทาอาการไอ รับประทานได้ทั้งแบบผลสด ผลแห้ง และชาชง 

3.ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คิวมิน สามารถป้องกันการทำลายเซลล์ ระบบทางเดินหายใจ ต้านการอักเสบของร่างกาย  จึงรับประทานขมิ้นชันในช่วงที่มีมลพิษ  ทางอากาศ ได้ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 – 4 ครั้ง แต่ต้องไม่เกิน  9 กรัม / วัน และไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีท่อน้ำดีอุดตัน และนิ่วในถุงน้ำดี

นอกจากนี้ยังควร รับประทานอาหารให้ ครบห้าหมู่ เน้นผักและสมุนไพรที่มีประโยชน์ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ผักผลไม้สีส้ม แดง ม่วงน้ำเงิน  เช่น กะหล่ำปลีม่วง ส้ม หรือรับประทานบล็อกเคอรี่ และผักใบเขียว เป็นต้น

avatar

null null
(chompoo_sri)