ผลบอล พรีเมียร์ลีก 2024/25: แมนซิตี้ พลิกแซงชนะ เชลซี 3-1 (มีคลิป)

เริ่มเกมมาได้เพียง 3 นาที เชลซี ออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ อับดูโกดีร์ คูซานอฟ กองหลังคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โหม่งคืนหลังพลาด ถูก นิโกลัส แจ็คสัน ฉกได้แล้วกระดกต่อให้ โนนี่ มาดูเอเก้ แปะเข้าประตูที่ว่างเปล่าเข้าไปง่ายๆ

ต่อมานาทีที่ 9 เชลซี มีลุ้นยิงขึนนำอีกครั้งจากจังหวะที่ โคล พาลเมอร์ หลุดกับดักล้ำหน้าเจ้าบ้านส่งเรียดให้ นิโกลัส แจ็คสัน วิ่งตีคู่ทางซ้ายแปะย้อน เจดอน ซานโช่ หวดติดบล็อก อับดูโกดีร์ คูซานอฟ 

นาทีที่ 34 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้แล้ว จากลูกซ้ำระยะเผาขนของ โอมาร์ มาร์มูช แต่ก็เป็นการล้ำหน้าไปเสียอีก

จากนั้นนาทีที่ 42 ทัพเรือใบสีฟ้า มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะของ อิลคาย กุนโดกัน วางบอลโด่งมาให้ มาเตอุส นูเนส สปีดเบียดกับ มาร์ก คูคูเรญ่า ก่อนฟูลแบ็กสิงห์เตะสกัดชิ่งนายด่านเพื่อนร่วมทีม ยอชโก้ กวาร์ดิโอล ตามมายิงบอลเข้าประตูที่ว่างเปล่าไป

ต่อมาครึ่งหลังนาทีที่ 50 อิลคาย กุนโดกัน ทิ้งบอลขึ้นหน้า ลีวาย โคลวิลล์ เสียเหลี่ยมบอลเลยถึง เออร์ลิง ฮาแลนด์ หาจังหวะซัดในเขตโทษ โรเบิร์ต ซานเชซ ล้มตัวป้องกันเอาไว้

ในนาทีที่ 68 ทัพเรือใบ มาได้ประตูออกนำเป็น 2-1 เอแดร์ซอน เปิดบอลยาว เออร์ลิง ฮาแลนด์ วิ่งชิงจังหวะกับ เทร์โวห์ ชาโลบาห์ ทว่า โรเบิร์ต ซานเชซ ดันตัดสินใจพลาดออกมาไกลจากปากประตูตัวเองแบบไม่จำเป็น ทำให้ ฮาแลนด์ เลือกยิงข้ามหัวเขาเข้าประตูไปเลย

นาทีที่ 87 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่างเป็น 3-1 เควิน เดอ บรอยน์ ลงสำรองโหม่งบอลมาที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หันหลังบังบอลพร้อมสะกิดหลุดถึง ฟิล โฟเด้น โซโล่เดี่ยวยิงเข้าประตูไป

จบเกม แมนซิตี้ ชนะ เชลซี 3-1 "เรือใบ" มีเพิ่ม 41 คะแนนคัมแบ้กอันดับ 4 ก่อนนัดหน้าปะทะ อาร์เซน่อล ส่วน "สิงห์บลูส์" หล่นรั้งที่ 6 ของตารางมี 40 แต้ม 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1): เอแดร์ซอน, มาเตอุส นูเนส, อับดูโกดีร์ คูซานอฟ (จอห์น สโตนส์ น.54), มานูเอล อคานยี, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, มาเตโอ โควาชิช, อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โอมาร์ มาร์มูช (เควิน เดอ บรอยน์ น.74), ฟิล โฟเด้น, เออร์ลิง ฮาแลนด์

เชลซี (4-2-3-1): โรเบิร์ต ซานเชซ, รีซ เจมส์ (มาโล่ กุสโต้ น.73), ลีวาย โคลวิลล์, เทร์โวห์ ชาโลบาห์, มาร์ก คูคูเรญ่า, มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ, โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ (เปโดร เนโต้ น.73), นิโคลัส แจ็คสัน (คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู น.61)