
กรีนแลนด์เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเร็วที่สุดในโลก อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ธารน้ำแข็งละลายเร็วกว่าที่เคย ส่งผลต่อทั้งวิถีชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน การละลายของน้ำแข็งก็เปิดโอกาสใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจ เช่น การทำเหมืองแร่และการเดินเรือ แต่ก็ต้องแลกกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากพายุที่รุนแรงขึ้นและการพังทลายของพื้นดิน
คาร์ล แซนด์กรีน ชาวเมืองอิลูลิสเซต (Ilulissat) เล่าว่าก่อนปี 1997 อ่าวในเมืองของเขาจะปกคลุมด้วยน้ำแข็งจนถึงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน แต่หลังจากนั้นน้ำแข็งก็หายไปเร็วกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน
ธารน้ำแข็ง Sermeq Kujalleq ซึ่งเป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่มีการเคลื่อนตัวเร็วที่สุดในโลก ได้ละลายและถอยร่นไปกว่า 40 กิโลเมตรตั้งแต่ปี 1850 โดยเฉพาะหลังปี 2000 ผู้นำจากทั่วโลก รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ต่างเดินทางมาดูผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยตาตัวเอง
ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา อุณหภูมิในเขตอาร์กติกซึ่งรวมถึงกรีนแลนด์เพิ่มขึ้นเร็วกว่าส่วนอื่นของโลกถึง 4 เท่า นอกจากจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นแล้ว ชาวกรีนแลนด์เองก็ต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ บางคนได้รับผลกระทบด้านลบ เช่น ชาวประมงและนายพรานที่เคยอาศัยน้ำแข็งเป็นเส้นทางล่าอาหาร ขณะที่บางคนเห็นโอกาส เช่น การทำเกษตรกรรมที่ดีขึ้นในภาคใต้ของกรีนแลนด์ หรือการจับปลาเฮลิบัตที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากน้ำแข็งลดลง

สรุปข่าว
แซนด์กรีนกล่าวว่าทุกวันนี้เรือขนส่งสามารถเข้าเมืองอิลูลิสเซตได้เกือบตลอดปี ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่สินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตขาดแคลนบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่เปลี่ยนไปก็ทำให้เกิดพายุรุนแรงขึ้น เพื่อนของเขาสูญเสียบ้านเพราะพายุเมื่อ 3 ปีก่อน และพิพิธภัณฑ์ในเมืองอาจต้องปิดตัวเพราะพื้นดินแตกร้าวจากการละลายของดินเยือกแข็งถาวร
ขณะเดียวกัน การละลายของน้ำแข็งเปิดโอกาสใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจ เส้นทางเดินเรือที่เคยถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งเริ่มเปิดให้เดินเรือได้มากขึ้น ปริมาณการเดินเรือผ่านอาร์กติกเพิ่มขึ้น 37% ในรอบ 10 ปี และระยะทางที่เดินเรือในเขตนี้เพิ่มขึ้นถึง 111% ท่าเรือนุก (Nuuk) อาจกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญ และหากเส้นทางเดินเรือทางตะวันตกเฉียงเหนือไปยังตะวันออกเฉียงเหนือเปิดขึ้น การเดินทางจากยุโรปไปญี่ปุ่นหรือจีนจะสั้นลงจาก 22 วันเหลือเพียง 10 วัน
อีกด้านหนึ่ง แหล่งแร่หายากในกรีนแลนด์กลายเป็นที่ต้องการของมหาอำนาจโลก นักวิจัยระบุว่ากรีนแลนด์มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นผู้เล่นหลักในตลาดแร่ธาตุ ซึ่งจีนและประเทศตะวันตกต่างก็พยายามแข่งขันเพื่อครอบครองทรัพยากรเหล่านี้
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนแปลงกรีนแลนด์อย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของความเสี่ยงและโอกาส พายุที่รุนแรงขึ้นและการละลายของดินเยือกแข็งถาวรก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อชุมชน แต่ในขณะเดียวกัน การเปิดเส้นทางเดินเรือและการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติทำให้เศรษฐกิจของกรีนแลนด์มีโอกาสเติบโตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สุดท้ายแล้ว คำถามสำคัญคือกรีนแลนด์จะสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ได้อย่างไร ในขณะที่ยังต้องเผชิญกับผลกระทบที่เลี่ยงไม่ได้ของภาวะโลกร้อน