เมื่อ “โลกร้อน” ขึ้นไม่หยุด ระดับน้ำทะเลก็จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

“อันโตนิโอ กูเตอร์เรส” เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนทุกประเทศทั่วโลกระวัง “น้ำทะเลหนุนสูง” โดยอาจเกิดภัยพิบัติทั่วโลกจากน้ำทะเลหนุนสูงจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับหมู่เกาะหลายแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยรายงานจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ระบุว่า อุณหภูมิของผิวน้ำทะเลในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก เพิ่มสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของผิวน้ำทะเลทั่วโลก 3 เท่านับตั้งแต่ปี 2523 และระดับน้ำทะเลในภูมิภาคนั้น เพิ่มสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของผิวน้ำทะเลทั่วโลก 2 เท่าในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

สาเหตุหลักที่ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น อย่างแรกคือเมื่ออากาศร้อนขึ้นมหาสมุทรจะดูดซับก๊าซเรือนกระจกและเก็บความร้อนจนอุณหภูมิเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น ปริมาตรจะขยายตัว ทำให้ระดับน้ำในมหาสมุทรเพิ่มขึ้นนั่นเอง ส่วนอีกกรณีเกิดจาก เมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นนั้น จะทำให้ธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วและไหลไปรวมกับน้ำในมหาสมุทร ทำให้ระดับน้ำในมหาสมุทรเพิ่มมากขึ้น

มีการประเมินจาก IPCC ว่าในแต่ละปี ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นปีละ 3.3 มิลลิเมตร ฟังดูแล้วอาจจะเหมือนไม่มาก แต่ถ้าเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้หลายเมืองจมน้ำได้เหมือนกัน โดยถ้านับตั้งแต่ปีพ.ศ.2443 จนมาถึงปัจจุบัน ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นมาแล้ว 17 เซนติเมตร และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีกแบบทวีคูณ คาดว่าภายในปีพ.ศ. 2643 หรืออีก 76 ปีข้างหน้า หากโลกยังไม่หยุดร้อนขึ้น ก็มีแนวโน้มที่ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นไปถึง 90 เซนติเมตรทีเดียว  

จากปัญหาระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทั่วโลกจะทำให้ประชาชนเกือบหนึ่งพันล้านคนเผชิญกับความเสี่ยงจากน้ำท่วมมากขึ้น นี่เป็นการคาดการณ์ในอีก 76 ปีข้างหน้า แต่มันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้หากทุกคนร่วมมือกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อร่วมชะลอไม่ให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงไปมากกว่านี้