ศูนย์จัดแสดงสินค้าเกษตรสมัยใหม่หูเป่ย ... สร้างสรรค์ ล้ำสมัย (2) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
เมื่อตอนก่อนผมเล่าถึงที่มาที่ไปของศูนย์จัดแสดงสินค้าเกษตรสมัยใหม่มณฑลหูเป่ย (Hubei Modern Agricultural Exhibition Center) ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มสําหรับการค้าส่ง-ค้าปลีก โลจิสติกส์ การแปรรูป และนวัตกรรมของสินค้าเกษตรที่สำคัญของมณฑลหูเป่ย บริเวณพื้นที่ตอนกลางของจีน รวมทั้งยังช่วยเชื่อมโยงเกษตรกรกับตลาดในประเทศและต่างประเทศอย่างสร้างสรรค์
สิ่งนี้ทำให้ศูนย์ฯ มีบทบาทต่อการสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่นในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงาน การเพิ่มรายได้ของเกษตรกร และการส่งเสริมการพัฒนาชนบท รวมทั้งขยายบทบาทของมณฑลหูเป่ยในฐานะผู้ส่งออกสินค้าเกษตรไปสู่ตลาดอาเซียน ยุโรป และตลาดต่างประเทศอื่นๆ
หลังแวะชมปลาหลี่เหอตัวใหญ่ในพื้นที่ส่วนแรกของศูนย์ฯ เราไปส่องกันต่อเลยครับว่าภายในศูนย์ฯ แห่งนี้มีสินค้าเกษตรอะไรที่น่าสนใจจัดแสดงไว้บ้าง ...
เมื่อเดินผ่านเข้าไปถึงพื้นที่ตอนใน ผู้เยี่ยมชมจะพบกับพื้นที่จัดแสดงสินค้าชาที่ตกแต่งอย่างสวยงามขนาดใหญ่ จากข้อมูลของพนักงาน
ขายที่ทำหน้าที่เป็น “คนชงชา” ระบุว่า หูเป่ยเป็นแหล่งเพาะปลูกชาคุณภาพสูงหลากหลายสายพันธุ์และประเภท ทั้งชาเขียว ชาแดง และชาดำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเอินชือ (Enshi) ซึ่งตั้งอยู่ด้านซีกตะวันตกเฉียงใต้ของหูเป่ย มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์กว่า 2,800 ปี โดยเฉพาะในฐานะผู้ผลิตชาที่ส่งไปเป็นเครื่องบรรณาการแก่จักรพรรดิเฉียนหลง (Qian Long) แห่งราชวงศ์ชิง (Qing)
ต้นชาในเอินชือได้รับประโยชน์จากสภาพทางภูมิศาตร์ที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูง ระดับความสูงทำให้มีอากาศเย็นและหมอกปกคลุม แถมพื้นดินก็อุดมด้วยธาติซีลีเนียม (Selenium) ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นอัตลักษณ์
ตอนไปเมื่อคราวก่อน ผมได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการชิมชาดีของเอินชือหลายชนิดท่ามกลางบรรยากาศของภาพถ่ายไร่ชาที่งดงามจากหลายพื้นที่ อาทิ ชาเขียวออกานิกส์เอินชือ ยู่ลู่ (Enshi Yulu) ที่ชงดื่มได้ทั้งในน้ำร้อนและน้ำเย็น และชาดำเอินชือ ลี่ฉวน (Enshi Liquan)
ผมเดินออกจากพื้นที่นี้พร้อมกับรสชาติและความหอมของชาดังกล่าว และบอกกับตัวเองว่า หากผมไปเยือนศูนย์ฯ ในครั้งหน้า ก็ต้องหาเวลาแวะไปชิมชาตัวอื่นอีกอย่างแน่นอน สำหรับคนที่อยากเดินชมศูนย์ฯ ก่อนก็สามารถเก็บช่วงเวลาพิเศษนี้ไว้ช่วงท้ายๆ ก็ได้ จะได้ถือโอกาสได้นั่งพักไปด้วยในตัว
สินค้าถัดมาก็คือ ข้าว มณฑลหูเป่ยถือเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” ที่สำคัญยิ่งของจีน ภายในศูนย์ฯ จึงเต็มไปด้วยข้าวหลากหลายสายพันธุ์ เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ บอกผมว่า ศูนย์ฯ จัดแสดงข้าวทุกชนิดของมณฑลหูเป่ยเอาไว้ดังนั้น คนที่ไปเยือนศูนย์ฯ จึงสามารถสัมผัสและดื่มด่ำกับกลิ่นหอม รวมทั้งเลือกข้าวเหล่านี้ไปลองหุงรับประทานได้อย่างเต็มที่
ที่ชั้น 2 ของศูนย์ฯ ก็มีหลายสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไล่ตั้งแต่ไข่เป็ด ไข่ไก่ และไข่ถุน ทั้งไข่สดและไข่เค็ม หลากหลายขนาด แต่พอได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็อดสงสัยไม่ได้เพราะเกิดมาก็ไม่เคยได้ยินชื่อสัตว์ประเภทนี้มาก่อน ซึ่งได้รับคำอธิบายว่า ถุนเป็นลูกครึ่งระหว่างเป็ดกับห่าน (Duck-Goose Hybrid) ที่ชาติตะวันตกเรียกว่า “กัก” (Guck)
สรุปข่าว
ประการสำคัญ จากข้อมูลของศูนย์ฯ ระบุว่าราว 90% ของไข่สดเหล่านี้ส่งออกไปตลาดฮ่องกง ซึ่งสะท้อนว่า อู่ฮั่นเป็นแหล่งซัพพลายอาหารสำคัญของฮ่องกงและตลาดต่างประเทศอื่น
ผมขอเรียนเพิ่มเติมว่า อู่ฮั่นมีแหล่งน้ำที่ดี และเป็นแหล่งเลี้ยงเป็ดและสัตว์น้ำจืดชั้นยอดของจีน ท่านผู้อ่านที่มีโอกาสไปเยือนอาจสังเกตเห็นแหล่งน้ำมากมายกระจายตัวในอู่ฮั่นเวลาเครื่องบินขึ้น-ลง หรืออาจเห็นบริษัทขายเครื่องในเป็ดรายใหญ่จากอู่ฮั่นที่ขึ้นทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของจีน
ผมยังติดใจกับซุปไข่และซุปเป็ดที่มีนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ “เปิดแล้วร้อนเลย” สินค้าเหล่านี้ถูกบรรจุในกล่องและบรรจุภัณฑ์สีเขียวพร้อมรูปลูกเป็ดสีขาวขอบตาสีแดงที่ดูสดใสและสะอาดตา ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่อาศัยในชุมชนเมืองหรือกลุ่มคนที่นิยมไปแค้มปิ้งในพื้นที่ชนบท
ในชั้นวางสินค้าใกล้ๆ กันก็มีผลิตภัณฑ์ไข่แปรรูปถึง 15 ชนิดที่น่าสนใจ อาทิ ยาแก้เมา น้ำยาบ้วนปาก และน้ำยาล้างผักจากเปลือกไข่ สินค้าบางรายการเพิ่มมูลค่าได้ถึง 16 เท่าตัว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง
ใกล้ๆ กันก็มีพื้นที่นวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ผ่านการทำฟาร์มแม่นยำ (Precision Farming) อินเตอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoTs) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และบล็อกเชน (Blockchain)
ยิ่งเมื่อเดินขึ้นไปถึงชั้น 3 ผมก็ตะลึงไปกับจอนำเสนอข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ยาวนับ 10 เมตรที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนวอร์รูม (War Room) ช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการขายของสินค้าแต่ละ SKUs แนวโน้มความต้องการในสินค้าที่เกี่ยวข้อง และอื่นๆ แบบทันทีได้เลย
ผมเดินแวะไปส่องพื้นที่สาธิตการปลูกพืชแนวดิ่ง (Vertical Plantation) ซึ่งอาจมีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก แต่มีการควบคุมอุณหภูมิ และติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องพร้อมสรรพที่ทำให้ผู้เยี่ยมชมเข้าใจระบบและเกิดแรงบันดาลใจในการทำเกษตรแนวดิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการทำเกษตรสมัยใหม่ได้
ที่ผมชอบอีกส่วนหนึ่งก็คือ พื้นที่จัดแสดงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ที่ออกแบบและตกแต่งเป็นห้องกระจกไว้อย่างเป็นสัดส่วน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ราวกับน้ำหอมชั้นดีเลยทีเดียว
หนึ่งในนั้นที่ผมทดลองซื้อชิมหลังจาก “ถูกกล่อมจนเคลิ้ม” ไปกับการบรรยายสรรพคุณอยู่นาน ก็คือ เหล้าสมุนไพรชื่อดังของหูเป่ย นัยว่าเหล้าสมุนไพรนี้เป็นสูตรดั้งเดิมที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นและต่อยอดด้วยเทคโนโลยีการกลั่นยุคใหม่ ประการสำคัญ หากดื่มต่อเนื่องจะช่วยปรับสมดุลและสภาพร่างกายให้มีสุขภาพดี
ขณะเยี่ยมชมพื้นที่นี้ ผมก็สังเกตเห็นทีมงานการตลาดกำลังทำไลฟ์สตรีมมิ่ง (Live-streaming) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่พอดี เห็นว่าด้วยวิธีการดังกล่าวทำให้สามารถเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างมาก
ระหว่างที่เดินเยี่ยมชมภายในศูนย์ฯ ผมก็แอบชื่นชมผู้บริหารศูนย์ฯ ที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในศูนย์ฯ แทบทุกอณูในการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสินค้าเกษตรของหูเป่ย อาทิ การนำเอาภาพถ่ายและเครื่องโถโอชามที่มีลวดลายผลผลิตทางการเกษตรมาตกแต่งในช่องทางเดินและจุดต่างๆ
ขณะเดียวกัน ศูนย์ฯ ก็ยังใช้จอ LED แบบ Interactive ให้ผู้มาเยี่ยมชมได้กดดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมในแต่ละจุดอีกด้วย
นอกจากความทันสมัยแล้ว ศูนย์ฯ ยังนำเสนอ “ลูกเล่น” อย่างสร้างสรรค์ หลังจากเดินจนเริ่มเมื่อย ก็มีมุมหนึ่งที่มีชิงช้าแขวนอยู่ เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ เชิญผมไปทดลองนั่งและแกว่งตัวราวกับย้อนไปในวัยเด็กท่ามกลางภาพวิวทุ่งดอกไม้ที่งดงามยิ่งในมณฑลหูเป่ยพร้อมกับเสียงเพลงและลมเบาๆ ที่มาประทะโสตสัมผัส
ภาพและเสียงเพลงเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชื่นชอบ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ต่างสอบถามถึงสถานที่ในคลิปเหล่านั้น และอยากหาเวลาไปเยือนทุ่งดอกไม้เหล่านั้นทั้งสิ้น จึงเห็นได้ว่า ศูนย์ฯ แห่งนี้ช่วยส่งเสริมการศึกษาและการท่องเที่ยวด้านการเกษตรไปพร้อมกัน
ขอพาไปส่องศูนย์ฯ ต่อในตอนหน้าครับ ...
อ่านข่าว ศูนย์จัดแสดงสินค้าเกษตรสมัยใหม่หูเป่ย ... สร้างสรรค์ ล้ำสมัย (1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
ที่มาข้อมูล : ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
ที่มารูปภาพ : reuters