ศูนย์จัดแสดงสินค้าเกษตรสมัยใหม่หูเป่ย ... สร้างสรรค์ ล้ำสมัย (1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจีนสามารถลดช่องว่างรายได้ระหว่างคนเมืองและชนบทลงได้อย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนรายได้ในชุมชนเมืองต่อชนบทลดลงจากราว 2.8 ในปี 2013 เหลือ 2.3 ในปี 2024 แต่ ช่องว่างก็ยังคงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ผลิตธัญพืชที่สําคัญของจีน

เราจึงเห็นว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนให้ความสำคัญกับการเพิ่มรายได้และขยายการบริโภคในชนบท โดย ในช่วงรอยต่อการดำรงตำแหน่งวาระที่ 3 ของสี จิ้นผิง พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เปิดตัวแคมเปญ “รวยร่วมกัน” (Common Prosperity) ซึ่งตามมาด้วยนโยบายการสร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับพื้นที่ชนบท

หลังจากนั้น เราก็เห็นพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนตั้งเป้าที่จะบรรลุความก้าวหน้าในการฟื้นฟูชนบทอย่างรอบด้าน และส่งเสริมความทันสมัยของการเกษตรและพื้นที่ชนบทไปสู่ระดับใหม่ภายในปี 2027 เพื่อหวังเพิ่มรายได้และขยายการบริโภคในชนบท อันจะนำไปสู่การบูรณาการระหว่างชุมชนเมืองและชนบทที่ครอบคลุม

แม้กระทั่งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2024 สี จิ้นผิง ผู้นำจีนก็นำคณะไปสำรวจและเรียกร้องให้มณฑลหูเป่ยก้าวไปข้างหน้าด้วย “การพัฒนาคุณภาพสูง” ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และยกระดับ “ความเป็นศูนย์กลาง” ด้านยุทธศาสตร์ของพื้นที่แถบเศรษฐกิจตอนกลางของแม่น้ำแยงซีเกียง เพื่อสนับสนุนความทันสมัยของจีนในอีกทางหนึ่ง

เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จีนดำเนินการในหลายส่วนตลอดห่วงโซ่แห่งคุณค่าตั้งแต่ “ต้นน้ำ” อาทิ การปกป้องคุ้มครองและฟื้นฟูระบบนิเวศน์ การวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ การเกษตรหมุนเวียน การทำเกษตรแปลงใหญ่ และการทำฟาร์มสมัยใหม่ที่หลากหลายและอเนกประสงค์

“กลางน้ำ” อาทิ การแปรรูปทางการเกษตรผ่านการสร้างสวนอุตสาหกรรมในพื้นที่การผลิต ขณะเดียวกัน จีนก็ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับ “ปลายน้ำ” อาทิ การปรับปรุงเครือข่ายการจัดจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นตลาดค้าส่ง และการค้าออนไลน์ โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยวเชิงเกษตรควบคู่กันไป

และโดยที่มณฑลหูเป่ยนับเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” ที่สำคัญของจีน การพัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายที่ทันสมัยจึงถือเป็นหนึ่งในกลไกที่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยรัฐบาลท้องถิ่นได้ลงทุนจัดตั้ง “ศูนย์แสดงสินค้าเกษตรสมัยใหม่แห่งมณฑลหูเป่ย” (Hubei Province Modern Agricultural Exhibition Center)

โครงการศูนย์ฯ ดังกล่าวก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2007 โดยได้รับการอนุมัติจากกรมเกษตรและกิจการชนบทของมณฑล ในระยะแรก ศูนย์ฯ ถูกกำหนดขึ้นเพื่อการจัดแสดงสายพันธุ์ด้านการเกษตรใหม่ เทคโนโลยีใหม่ และโมเดลใหม่บนพื้นฐานของการบูรณาการระหว่างพืชผลและสายพันธุ์ในด้านการผลิตและความต้องการของตลาด รวมทั้งยังถูกใช้ในการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการแก่นักศึกษาของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเกษตร

การจัดตั้งศูนย์ฯ ดังกล่าวอาศัยพื้นฐานของแนวคิดในการสร้างศูนย์กลางการกระจายสินค้าแบบรวมศูนย์ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับแนวคิดในการสร้างระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นมณฑลเป็นศูนย์กลางโดยมีเมืองเล็กเป็นโหนด และใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านการเกษตรในท้องถิ่นเพื่อสร้างระบบอุตสาหกรรมในชนบทที่ทันสมัย

หลังจากหลายปีของการก่อสร้างและการดําเนินงาน ศูนย์ฯ นับว่าเป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกของจีน และมีบทบาทสําคัญในการสาธิตและการส่งเสริมการเกษตรและเทคโนโลยี การฝึกอบรม และการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์อย่างหลากหลาย


ศูนย์จัดแสดงสินค้าเกษตรสมัยใหม่หูเป่ย ... สร้างสรรค์ ล้ำสมัย (1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

สรุปข่าว

ศูนย์จัดแสดงสินค้าเกษตรสมัยใหม่หูเป่ย ... สร้างสรรค์ ล้ำสมัย (1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

ปัจจุบัน ศูนย์ฯ ดังกล่าวมีเครือข่ายร้านจำหน่ายสินค้าเกษตรที่เชื่อมโยงระหว่างกันอยู่อีก 15 จุดกระจายอยู่ทั่วมณฑล ทั้งนี้ โดยมีศูนย์ฯ ที่อู่ฮั่นเป็นสำนักงานใหญ่ ทั้งนี้ จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ พบว่า ศูนย์ฯ มีผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงสายพันธุ์มากกว่า 500 คนจากกว่า 20 เมืองและเขตในจีน

ส่งผลให้ในแต่ละปี ศูนย์ฯ สามารถจัดแสดงสินค้าเกษตรสายพันธุ์ใหม่มากกว่า 2,000 ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพดเหนียว ข้าว และฝ้ายพันธุ์ใหม่ เทคโนโลยีใหม่มากกว่า 50 ชนิด และสินค้ารุ่นใหม่มากกว่า 30 ชนิด

คำถามสำคัญที่ผมคิดต่อก็คือ แล้วศูนย์ฯ สามารถทำได้อย่างไร? เพราะมีฐานการวิจัยและพัฒนาและการผลิตสินค้าเกษตรสมัยใหม่จำนวนมากอยู่เบื้องหลัง อันได้แก่ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรมากกว่า 100 แห่ง พื้นที่สาธิตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมือง 550 แห่ง และเครือข่ายสาธิตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 340,000 ครัวเรือนที่ได้รับการปลูกฝังและสนับสนุนในระดับหมู่บ้าน

เครือข่ายเหล่านี้ทําให้พื้นฐานการส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตร การวางแนวทางของสายพันธุ์ชั้นนำ และการจัดการการเพาะปลูกเป็นวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ทำให้สามารถเปลี่ยนผลงานของผู้เชี่ยวชาญเป็นการปฏิบัติของเกษตรกรได้

และยังนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผลิตภาพด้านการเกษตรและศักยภาพด้านเทคโนโลยี การสร้างแบรนด์หูเป่ยในด้าน “เกษตรสมัยใหม่” สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงด้านการเกษตรและเป้าหมายการเพิ่มรายได้ของเกษตรกรอันนำไปสู่ผลเชิงบวกต่อนโยบายการพัฒนาคุณภาพสูงในภาพใหญ่

สิ่งเหล่านี้ทำให้ศูนย์ฯ สามารถดึงดูดผู้เยี่ยมชมจำนวนมากจากทุกสาขาอาชีพทั้งในและต่างประเทศ และก่อให้เกิดการตรวจสอบ และการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์มากกว่า 70,000 ครั้ง รวมถึงองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ เจ้าหน้าที่การเกษตรจากกว่า 70 ประเทศ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ ผู้บริหารองค์กรและบุคลากรด้านเทคนิคจากในและต่างมณฑล นำไปสู่การฝึกอบรมความสามารถด้านเทคนิคทางการเกษตรมากกว่า 50,000 คน

ประการสำคัญ ศูนย์ฯ สามารถดึงดูดตัวแทนจัดจําหน่ายมาเยี่ยมชมซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีในด้านการประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการขาย รวมทั้งยังแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ดีด้านการเกษตรของมณฑลหูเป่ย และช่วยวางรากฐานที่มั่นคงสําหรับการสร้างแบรนด์การเป็น “ผู้เล่นหลัก” อันดับแรกในด้านนวัตกรรมการเกษตรของพื้นที่ตอนกลางและภาคใต้ของจีน


ทั้งนี้ สินค้าเกษตรที่จะถูกนำเสนอและจำหน่ายในศูนย์ฯ ต้องผ่านการคัดเลือกคัดครองของท้องถิ่นในแต่ละระดับก่อนที่ถูกนำเสนอในศูนย์ฯ นั่นเท่ากับว่า เกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องต้องเข้าร่วมโครงการพัฒนาสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกระบวนการ “พัฒนา” ที่ไทยเราควรเรียนลัดเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากเป็นการรักษาเสถียรภาพของการจ้างงานและค่าจ้างให้กับคนทุกกลุ่มทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นคนในวัยหนุ่มสาว และผู้สูงอายุ แม้กระทั่งแรงงานต่างชาติแล้ว การจัดระบบการพัฒนาสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่องดังกล่าว ยังสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาทักษะฝีมือและความชำนาญการแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ และนำไปสู่การขยายการบริโภค การปรับปรุงระบบการค้า ไปพร้อมกัน

ผมขอพาไปส่องรายละเอียดในศูนย์ฯ แห่งนี้กันเลยดีกว่า จุดแรกที่เดินเข้าสู่อาคาร ด้านขวาก็จะพบกับตู้ปลาขนาดใหญ่ที่มีปลาหลี่เหอขนาดใหญ่อยู่ถึง 19 ตัว ผมยอมรับว่า ผมเองก็มีโอกาสเห็นปลาหลี่เหอตัวใหญ่สุดในชีวิตก็ที่นี่เองครับ

เมื่อสอบถามพนักงานได้รับคำตอบว่า ปลาเหล่านี้ราคาตลาดน่าจะอยู่ราวตัวละกว่า 1 ล้านหยวน และ “ไม่ได้มีไว้ขาย” เพราะศูนย์ฯ ต้องการเก็บปลาเหล่านี้ไว้เป็นพ่อแม่สายพันธุ์ในระยะยาว

อ่านต่อตอนหน้า ...


ที่มาข้อมูล : ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ที่มารูปภาพ : AFP