
ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศว่าเขาพร้อมจะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อหารือกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับจุดยืนของญี่ปุ่นต่อมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งญี่ปุ่นถูกเรียกเก็บในอัตรา 24% ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยเฉพาะรถยนต์ ซึ่งญี่ปุ่นส่งออกรถยนต์มาที่สหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งหากญี่ปุ่นถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่มในอัตรา 24% จะถือว่าเป็นวิกฤตระดับชาติ
ในวันนี้ หุ้นนิเคอิของญี่ปุ่น ปรับตัวลดลงเกือบ 3,000 จุด ซึ่งเป็นผลกระทบจากการขึ้นภาษีของทรัมป์ โดยอิชิบะ อธิบายต่อรัฐสภาว่ารัฐบาลญี่ปุ่นกำลังทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อเร่งหาทางออกเรื่องนี้อยู่ และรัฐบาลญี่ปุ่นจะพยายามแสดงให้สหรัฐฯ เห็นว่าที่ผ่านมา ญี่ปุ่นไม่ได้ทำการค้าที่เอาเปรียบสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2019 โดยผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นลงทุนโดยตรงในสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าราว 418 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท และยังสร้างงานมากถึง 2,300,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ
อิชิบะยังระบุว่าการปรับเพิ่มอัตราภาษีของสหรัฐฯ ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคี แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและระบบการค้าพหุภาคีด้วย ซึ่งการที่อิชิบะ ที่เป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ประกาศว่าจะเดินทางไปเจรจาเรื่องที่กับทรัมป์ด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเอาจริงกับการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

สรุปข่าว

กองบรรณาธิการ TNN