"ดิ แอตแลนติก" เผยเนื้อหา "แชตหลุด" เพิ่มทำรัฐบาลสหรัฐฯ รับผลกระทบหนัก

แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า เจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการนิตยสารข่าว ดิ แอตแลนติก ผู้เปิดโปงเรื่องราวนี้ เป็นสื่อมวลชนที่ต่อต้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มาโดยตลอด และยังคงเดินหน้าสร้างโฆษณาชวนเชื่อ อีกทั้งเผยแพร่ข่าวปลอมมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งย้ำว่า ความจริงในเรื่องนี้มีเพียงหนึ่งเดียว คือปฏิบัติการทางทหารที่ประสบความสำเร็จ และไม่มีข้อมูลข่าวกรองที่เป็นความลับใดๆ หลุดออกไปจากห้องสนทนาดังกล่าว


เช่นเดียวกับ พีธ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ยังคงยืนกรานว่า ไม่ได้ส่งข้อมูลลับทางทหารเข้าสู่ห้องสนทนา แม้จะเป็นที่ชัดเจนว่า ข้อความบางส่วนที่เฮกเซธเป็นผู้ส่งไปยังห้องแชทดังกล่าว แจกแจงรายละเอียดสำคัญของปฏิบัติการโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน เมื่อวันที่ 15 มีนาคม แบบเรียงเป็นลำดับเวลา รวมถึงประเภทของเครื่องบินรบที่ใช้ด้วย ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงยอมรับว่า เป็นเรื่องจริงที่มีบางคนทำผิดพลาด ด้วยการดึงนักข่าวเข้ากลุ่มสนทนา แต่เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะต้องมีใครรับผิดชอบเรื่องนี้หรือไม่ 


ด้าน เจสัน โครว์ สส.รัฐโคโลราโดจากพรรคเดโมแครต ในฐานะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลทรัมป์จะต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ โดยเฉพาะเฮกเซธ ที่ควรจะพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เพราะการรกระทำอันประมาทเลินเล่อของเขาและทีมงานทำให้ทหารอเมริกันที่ปฏิบัติหน้าที่ในต่างแดนตกอยู่ในความเสี่ยง หากข้อมูลและเนื้อหาในแชทหลุดไปอยู่ในมือของคนที่เป็นศัตรูกับสหรัฐฯ ป่านนี้คงได้มาจัดพิธีไว้อาลัยให้กับทหารและนักบินที่อาจเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ไปแล้ว

"ดิ แอตแลนติก" เผยเนื้อหา "แชตหลุด" เพิ่มทำรัฐบาลสหรัฐฯ รับผลกระทบหนัก

สรุปข่าว

คณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามอย่างหนักรับผลกระทบและลดแรงกระแทกจากผลพวงเนื้อหาในกลุ่มสนทนาเกี่ยวกับแผนการโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมนรั่วไหลถึงสื่อซึ่งเป็นคนนอก

ขณะที่ในส่วนของเว็บไซต์ ดิ แอตแลนติก ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการเมืองและการทูตของสหรัฐฯ ล่าสุด ได้เปิดเผยเนื้อหาจากบทสนทนาเกี่ยวกับการวางแผนโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน จากห้องสนทนาของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ ในแอปพลิเคชัน 'ซิกนัล' ที่มีการดึงโกลด์เบิร์ก บรรณาธิการบริหารของดิ แอตแลนติก เข้าไปรวมอยู่ในกลุ่มสนทนาด้วย ดิ แอตแลนติก และโกลด์เบิร์ก ให้เหตุผลเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมด เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนในทำเนียบขาวกล่าวว่า เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องโกหก และต้องการให้ชาวอเมริกันมีโอกาสพิจารณาความเหมาะสมของเรื่องที่เกิดขึ้น


ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีชื่อของทหารระดับสูงนายใดในกองทัพสหรัฐร่วมกลุ่มสนทนาดังกล่าว ซึ่งรายงานของดิ แอตแลนติก ระบุว่า ไมเคิล วอลต์ซ ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเพิ่มชื่อของใครเข้าสู่ห้องสนทนาบ้าง

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Wikipedia

avatar

ฑิตยา เที่ยงกมล