ข้อมูลจาก Edmunds ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่า เดือนมีนาคมเป็นเดือนที่มี จำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับการนำรถยนต์ เทสลา (Tesla) มาแลกรถใหม่หรือมือสองจากตัวแทนจำหน่ายที่ขายรถยนต์ยี่ห้ออื่น นับตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าทำเนียบขาวในเดือนมกราคม ในฐานะบุคคลสำคัญของรัฐบาลทรัมป์ชุด 2 มัสก์ ซึ่งดำรงตำแหน่งซีอีโอของเทสลา ได้ลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลางและการใช้จ่ายของรัฐบาล และสามารถเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของรัฐบาลได้ แม้ว่าความพยายามของเขาจะถูกท้าทายในศาลซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตาม
ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำของหน่วยงานที่เรียกว่ากระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล หรือ DOGE มัสก์ได้ใช้เงินไปประมาณ 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้วเพื่อช่วยผลักดันให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว
สรุปข่าว
แม้ว่านักลงทุนจะเข้าซื้อหุ้นของเทสลาหลังจากที่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในเดือนพฤศจิกายน แต่ล่าสุดพวกเขาถอยห่างจากบริษัท ทำให้ราคาหุ้นลดลงร้อยละ 42 ในปีนี้ คลื่นการประท้วงได้พุ่งเป้าไปที่โรงงานของเทสลาในสหรัฐฯ และที่อื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีการก่ออาชญากรรมอื่นๆ เช่น การก่อวินาศกรรมและวางเพลิงที่ร้านค้า รถยนต์ และสถานีชาร์จของเทสลาทั่วสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เทสลา ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในเดือนมกราคม S&P Global Mobility พบว่ายอดขายของ Tesla ลดลงประมาณร้อยละ 11 เมื่อเทียบเป็นรายปีในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ Ford, Chevrolet และ Volkswagen เก็บแต้มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของตนและคว้าส่วนแบ่งการตลาดมาได้
เจสซิก้า คาลด์เวล หัวหน้าฝ่ายข้อมูลเชิงลึกที่ Edmunds เขียนในอีเมล ว่าการเปลี่ยนแปลงในความรู้สึกของผู้บริโภคที่มีต่อเทสลาอาจสร้างโอกาสให้ผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิมและบริษัทสตาร์ทอัปด้านรถยนต์ไฟฟ้าสามารถขยายฐานตลาด เมื่อความภักดีและความสนใจในแบรนด์เทสลาเปลี่ยนแปลงไป ผู้ที่เสนอราคาที่แข่งขันได้ เทคโนโลยีใหม่ หรือเพียงแค่ความขัดแย้งที่น้อยลงอาจดึงดูดเจ้าของ เทสลาที่เปลี่ยนใจและผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกได้
แบรนด์ เทสลามีความผูกพันกับซีอีโอมากกว่าผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ จากการสำรวจของ Edmunds ในเดือนสิงหาคม 2024 พบว่าผู้ซื้อรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นที่ไม่คุ้นเคยกับมัสก์
Edmunds ยังกล่าวอีกว่าการซื้อรถรุ่นใหม่ของ เทสลาบนแพลตฟอร์มของบริษัทลดลงสู่ระดับต่ำสุดเมื่อเดือนที่แล้ว นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 หลังจากแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน
แบรนด์ เทสลาประสบปัญหาตั้งแต่ก่อนที่มัสก์จะเริ่มเป็นหัวหน้า DOGE โดยมูลค่าแบรนด์ลดลงร้อยละ 26 หรือประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ตามข้อมูลของบริษัทวิจัยและที่ปรึกษา Brand Finance
ยังมีผู้ซื้อรถยนต์จำนวนมากที่นำรถยนต์ไฟฟ้า เทสลาของตนไปแลก เทสลารุ่นใหม่กว่า ขณะที่เทสลา ไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นของ CNBC ในทันที
ที่มาข้อมูล : https://www.reuters.com/business/autos-transportation/tesla-trade-ins-pace-record-high-amid-musk-backlash-2025-03-20/
ที่มารูปภาพ : -

พัสวี ฐิติพรวัฒนกุล