
เมื่อวานนี้ (26 มีนาคม) คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเผยแพร่คำแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป กักตุนอาหารและสิ่งของจำเป็นให้เพียงพอสำหรับอย่างน้อย 72 ชั่วโมง และเน้นย้ำถึงความจําเป็นที่ชาวยุโรปต้องเปลี่ยนความคิดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ด้วยความยืดหยุ่น
คำแนะนำดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาในรูปแบบเอกสารจำนวน 18 หน้า ว่ายุโรปกำลังเผชิญกับความเป็นจริงใหม่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอน อาทิ ความเสี่ยงจากสงครามเต็มรูปแบบระหว่างรัสเซียและยูเครนที่จะทำให้ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ร้อนระอุมากขึ้น รวมไปถึงภัยคุกคามจากการก่อ วินาศกรรม, การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน หรือ แม้แต่สงครามอิเล็กทรอนิกส์

สรุปข่าว
ในเอกสารคำแนะนำซึ่งเป็นกลยุทธ์และการเตรียมความพร้อมจากคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กล่าวว่าพลเมืองทั่วทวีปยุโรปควรหามาตรการที่ใช้งานได้จริงเพื่อให้แน่ใจว่าพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน ซึ่งรวมถึงการกักตุนเสบียงอาหารที่จําเป็นและเพียงพอสำหรับใช้งานได้อย่างน้อยสามวัน ในกรณีที่เกิดการหยุดชะงักที่รุนแรง ซึ่งในช่วงเวลา 72 ชั่วโมงแรก ถือว่าเป็นช่วงเริ่มต้นเหตุฉุกเฉินที่สําคัญมากที่สุด นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปยังเรียกร้องให้มีการสอนบทเรียนเพื่อเตรียมพร้อมต่อสถานการณ์ฉุกเฉินในหลักสูตรของโรงเรียน รวมไปถึงการสร้างทักษะให้เด็ก ๆ รับมือกับข้อมูลที่ถูกบิดเบือนด้วย
อย่างไรก็ตาม CNN รายงานว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังดำเนินอยู่มาถึงปีนี้ เป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ผู้นำชาติยุโรปฉุกคิดอย่างจริงจังว่าประเทศและประชาชนของพวกเขาควรเตรียมความพร้อมรับมือกับสงครามให้มากที่สุด ยิ่งกว่านั้นคือการกลับมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และฝ่ายบริหารของเขาที่แสดงจุดยืนชัดเจนว่าต้องการเผชิญหน้ากับยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมกับนาโตและสงครามในยูเครนที่จุดประกายให้หลายประเทศในยุโรปเพิ่มความพร้อมทางทหารในประเทศของตนเอง
ด้าน เออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวในแถลงการณ์ว่า ความเป็นจริงใหม่ต้องการการเตรียมความพร้อมในระดับใหม่เช่นกัน พลเมืองของเรา ชาติสมาชิกของเรา ต้องการสิทธิในการป้องกันวิกฤตและตอบสนองอย่างรวดเร็วเมื่อภัยมา
ทั้งนี้ คำแนะนำของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปถูกเผยแพร่ หลังจากที่หลายประเทศในยุโรปได้อัปเดทแผนการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ในประเทศของพวกเขา อาทิ ฝรั่งเศสเพิ่งออกคู่มือแนะนำการเอาชีวิตรอดจากเหตุฉุกเฉิน ในขณะที่เยอรมนีได้อัปเดตกรอบคําสั่งสําหรับการป้องกันโดยรวม โดยให้ทิศทางว่าจะทําอย่างไร หากเกิดความขัดแย้งขึ้นในยุโรปหรือต้องเผชิญกับการรุกรานของรัสเซีย

ฑิตยา เที่ยงกมล