รัสเซียยังโจมตียูเครนต่อเนื่องแม้การเจรจาที่ซาอุฯ ยังคงดำเนินอยู่จนมีผู้บาดเจ็ย 65 คน

ขณะที่กำลังมีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างรัสเซียและยูเครนในซาอุดีอาระเบียที่มีสหรัฐฯเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย แต่ความรู้สึกของทหารในแนวหน้า ยังคงเคลือบแคลงสงสัยกับการเจรจาดังกล่าว โดยทหารยูเครนจากหน่วยปฏิบัติการตอบโต้เร็ว หรือเคโออาร์ดี ที่ประจำการอยู่ในแนวรบซาปอริชเชีย แสดงความหวังเพียงเล็กน้อยว่า ข้อตกลงหยุดยิงจะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน

   

ที่ศูนย์หลบภัยใต้ดิน ห่างจากแนวหน้าเพียง 4 กิโลเมตร สมาชิกของหน่วย เคโออาร์ดี กำลังยุ่งอยู่กับการประกอบและตั้งโปรแกรมโดรนลาดตระเวนและโดรนโจมตี ซึ่งตามรายงานของกองกำลังป้องกันภาคใต้ของยูเครน พบว่า ความรุนแรงของการยิงปืนใหญ่และการโจมตีแนวหน้าซาปอริซเซียค่อย ๆ เพิ่มขึ้น


ทหารวัย 29 ปีของเคโออาร์ดี ซึ่งเรียกชื่อตามรหัสว่า “เมแคนนิค” (Mechanic) หรือช่าง กล่าวว่า การลาดตระเวนทำให้เห็นว่า รัสเซียได้นำ "อาวุธและกำลังพลจำนวนมหาศาล" มายังพื้นที่ซาปอริชเชีย อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงการเจรจาหยุดยิงที่กำลังดำเนินอยู่ ทหารของหน่วยยังคงแสดงความสงสัย โดยมองว่าการเจรจาหยุดยิงดังกล่าวเป็นการเคลื่อนไหวทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานที่มั่นของพวกเขาเพื่อการบุกโจมตีในอนาคต

รัสเซียยังโจมตียูเครนต่อเนื่องแม้การเจรจาที่ซาอุฯ ยังคงดำเนินอยู่จนมีผู้บาดเจ็ย 65 คน

สรุปข่าว

รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองซูมี ของยูเครน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 65 คน ขณะที่ในกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและรัสเซียเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการหยุดยิงในยูเครน ยังคงดำเนินต่อไป โดยมุ่งเน้นไปที่ข้อตกลงหยุดยิงในทะเลดำ

ขณะเดียวกัน รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเขตที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่งในเมืองซูมี ของยูเครน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 65 คน รวมถึงเด็ก 14 คน ในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งที่เผยแพร่ทางเทเลแกรม สำนักงานอัยการของเมือง ระบุว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีย่านที่ชุมชนที่มีผู้คนหนาแน่นในเมืองแห่งนี้ ซึ่งมีอาคารอพาร์ตเมนต์หลายหลังและสถาบันการศึกษา ได้รับความเสียหายด้วย 


สามารถมองเห็นควันดำหนาทึบและไฟไหม้เป็นฉากหลัง รวมทั้งรถยนต์คันหนึ่งที่มีกระจกแตก นอกจากนี้ ควันยังพวยพุ่งขึ้นจากชั้นบนของอาคารที่พักอาศัย 5 ชั้นที่อยู่ใกล้เคียง


เมืองซูมี ห่างจากพรมแดนรัสเซียประมาณ 30 กิโลเมตร รวมทั้งพื้นที่โดยาอบ ตกเป็นเป้าหมายโจมตีของโดรนและขีปนาวุธจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง 


ส่วนกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า ยูเครนส่งโดรนโจมตีสถานีสถานีสูบน้ำมันโครพอตกินสกายา ในดินแดนครัสโนดาร์ของรัสเซียในเวลา 02.00 น.ของวานนี้ (จันทร์) ตามเวลาท้องถิ่น 


สำนักข่าวทาสส์ ของรัสเซีย รายงานว่า การโจมตีครั้งนี้ "เป็นไปไม่ได้ที่จะขนส่งน้ำมันจากแหล่งดังกล่าวไปยังระบบท่อส่งน้ำมันแคสเปียน หรือ CPC (Caspian Pipeline Consortium) ในอนาคตอันใกล้"

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยูเครนส่งโดรนโจมตี 2 ลำถล่มสถานีจ่ายก๊าซ วาลุยกี ในภูมิภาคเบลโกรอด ทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี 


ส่วนเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและรัสเซีย ได้จัดการเจรจากันในซาอุดีอาระเบียเมื่อวานนี้ เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงอย่างกว้างขวางในยูเครน โดยสหรัฐฯเล็งเห็นถึงข้อตกลงหยุดยิงทางทะเลในทะเลดำ ก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงในวงกว้างยิ่งขึ้น


ทำเนียบขาว แถลงว่า จุดประสงค์ของการเจรจา คือการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทางทะเลในทะเลดำ เปิดเส้นทางการเดินเรืออย่างเสรี แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นสถานที่ปฏิบัติการทางทหารอย่างเข้มข้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ก็ตาม 


ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องความปลอดภัยในการเดินเรือเป็นหลัก” พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ข้อตกลงก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการขนส่งทางทะเลดำที่ตกลงกันไว้ในปี 2565 ไม่สามารถส่งมอบสิ่งที่สัญญาไว้กับรัสเซียได้


การเจรจาดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครนในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการเพื่อยุติความขัดแย้งที่ยือเยื้อมา 3 ปี หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters

avatar

ฑิตยา เที่ยงกมล