
เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในสังคมไทย เกี่ยวกับพฤติกรรมการอวดความร่ำรวยและไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา ของเหล่าคนดัง เซเลบริตี้ อินฟลูเอนเซอร์ ต่าง ๆ นานา ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ก็ถูกจับได้ว่าไม่ได้รวยจริงอย่างที่ตัวเองโอ้อวด ซึ่งเทรนด์อวดความร่ำรวย ทั้งที่ตัวเองไม่ได้รวยจริงแบบนี้ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Fake Flexing เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกและเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยม เพราะตรงกับค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย โดยไม่ต้องทำงานหนัก ซึ่งคนจำนวนมากพร้อมเชิดชูคนที่ร่ำรวย ใช้ของแพง มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยไม่ได้สนใจว่าเงินเหล่านั้นมาจากที่ไหน
อย่างไรก็ตาม การที่ใครสักคนจะเริ่มออกมาทำคอนเทนต์โชว์ความร่ำรวย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนร่ำรวย ยังมีสาเหตุอื่น ๆ เป็นตัวขับเคลื่อน นอกเหนือไปจากการได้ยอดวิวหรือยอดไลค์ซึ่งเอาไปต่อยอดในเชิงธุรกิจได้ The Journal of Social Research เคยเผยแพร่งานวิจัยที่มีชื่อว่า “Flexing, the Fake Rich Phenomenon” ที่ระบุว่าการอยากมีตัวตนในสังคมคือแรงขับเคลื่อนในจิตใจที่สำคัญ ที่ทำให้คนกลุ่มนี้ พร้อมจะทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองมีตัวตนและมีที่ยืนในสังคม แต่พวกเขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากพอที่จะทำให้คนจดจำ หรือเป็นที่ชื่นชม จึงต้องหันมาแกล้งทำเป็นคนร่ำรวยผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการใช้กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพง การได้นั่งรถซูเปอร์คาร์ การไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อให้ตัวเองดูเป็นคนมีค่าและประสบความสำเร็จ เนื่องจากสังคมทุกวันนี้ ตัดสินความสำเร็จและความสุขของผู้คน ผ่านวัตถุและจำนวนเงิน ดังนั้น คนที่ต้องการที่ยืนในสังคม และได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ จึงต้องเสแสร้งทำเป็นคนที่ดูมีเงินใช้เหลือเฟือ แม้ว่าในความเป็นจริง ตัวเองจะไม่ได้เป็นที่ร่ำรวยอะไรขนาดนั้น
โซเชียลมีเดียก็มีบทบาทที่ทำให้เทรนด์ Fake Flexing แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เมื่อคนรุ่นใหม่เสพติดข้อมูลจากโซเชียลมีเดียมากขึ้น และพร้อมตัดสินทุกอย่างจากสิ่งที่เห็นบนโซเชียลมีเดีย ทำให้คนจำนวนมาก ต้องการสร้างตัวตนบนโซเชียลมีเดีย ที่อาจจะแตกต่างจากตัวตนในโลกแห่งความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง เพราะโซเชียลมีเดียมีเครื่องมือหลายอย่างที่ช่วยให้พวกเขาสร้างตัวตนในแบบที่ตัวเองอยากเป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันถ่ายรูป ที่ช่วยปรับแต่งให้หน้าตาหรือรูปร่างของตัวเองดูดีกว่าความเป็นจริง หรือการสร้างเพจ สร้างคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาปลอม ๆ เกี่ยวกับตัวเอง เกี่ยวกับอาชีพการงานของตัวเอง หรือความร่ำรวยที่ดูประสบความสำเร็จเกินความเป็นจริง

สรุปข่าว
ในสังคมเอเชียที่มีการแข่งขันกันสูง และมีการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นตลอดเวลา ตั้งแต่เรื่องเรียนหนังสือ ชีวิตการทำงาน และชีวิตครอบครัว ยิ่งเป็นตัวผลักดันให้คนที่รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่ากว่าผู้อื่น ต้องหาทางทำอะไรสักอย่างให้ตัวเองมีที่ยืนที่เท่าเทียมกับผู้อื่น เมื่อบางคนเห็นคนรอบตัวก้าวหน้าหรือได้ดีเกินหน้าเกินตาตัวเอง ในขณะที่ตัวเองยังอยู่ที่เดิม จึงต้องเริ่มทำคอนเทนต์โชว์ความร่ำรวยผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกด้อยค่ามากไปกว่าที่เป็นอยู่
และเมื่อใครบางคนเริ่มทำคอนเทนต์โชว์รวยแล้ว ก็เริ่มรู้สึกเสพติดคำชื่นชมและยอดไลค์ ยอดวิว จึงทำให้ต้องทำคอนเทนต์แนวนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อได้ยอดไลค์มากขึ้น มีคนติดตามมากขึ้น ก็เหมือนขึ้นหลังเสือที่หาทางลงไม่ได้ จนกว่าจะถูกจับได้แบบคาหนังคาเขา และไม่สามารถโกหกได้อีกต่อไป
ที่มาข้อมูล : The Journal of Social Research
ที่มารูปภาพ : TNN World

กองบรรณาธิการ TNN