
เมื่อวานนี้ (15 มีนาคม) มีรายงานว่าพนักงานฟูลไทม์ที่ ”ทำงานเต็มเวลา“ ของสำนักข่าว Voice of America หรือ VOA มากกว่า 1,300 คน ที่รวมทั้งผู้สื่อข่าว โปรดิวเซอร์ พนักงานฝ่ายสนับสนุนอื่น ๆ และพนักงานระดับอาวุโส ได้รับอีเมล์แจ้งเตือนให้ “พักงาน” หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารให้ลดจำนวนพนักงานในองค์กรสื่อที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งนอกจาก VOA แล้วยังมีสื่อในเครือของ U.S. Agency for Global Media อาทิ Radio Free Asia, Radio Free Europe ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งทรัมป์มองว่า องค์กรดังกล่าวเป็นองค์ประกอบของระบบราชการในรัฐบาลกลางที่ “ไม่จําเป็น”
พนักงานนับพันที่ถูกพักงานได้รับแจ้งในอีเมลที่ส่งมาจาก คริสตัล จี. โธมัส ผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ U.S. Agency for Global Media โดย The Hill รายงานว่า ผู้สื่อข่าวของ VOA ที่ถูกพักงานจะยังได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์เต็มจํานวนจนกว่าจะมีความคืบหน้าเป็นอย่างอื่น แต่พวกเขาจะไม่ได้รับสิทธิ์ให้เข้าไปในสำนักงานใหญ่ที่กรุงวอชิงตันดี.ซี. หรือเข้าถึงระบบภายในของ U.S. Agency for Global Media หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือจากหัวหน้างานก่อน

สรุปข่าว
ด้าน ไมเคิล อับรามอวิซ ผู้อำนวยการของ VOA กล่าวในแถลงการณ์ว่า เขารู้สึกเสียใจอย่างถึงที่สุด เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 83 ปีที่ VOA กำลังถูก “ปิดปาก“ ไม่ให้รายงานเรื่องราวในสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมา VOA ทำงานเพื่อส่งเสริมเสรีภาพและประชาธิปไตยทั่วโลก ด้วยการรายงานข่าวที่เป็นกลาง
อับรามอวิซกล่าวด้วยว่าคำสั่งลดพนักงานของทรัมป์ทำให้ VOA ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจที่สําคัญนี้ได้ ในช่วงเวลาที่ศัตรูของอเมริกาอย่าง อิหร่าน จีน และรัสเซีย กําลังทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างข่าวเท็จและทําให้สหรัฐฯ เสียชื่อเสียง
ในขณะที่ ฟรีแลนซ์และผู้สื่อข่าวสตริงเกอร์ของ VOA ทั้งหมดทั่วโลกและพนักงานสัญญารายเดือน ต้องหยุดทํางานด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งผลจากการประกาศให้พักงาน ทำให้พนักงาน VOA บางคนประท้วงด้วยจุดยืนที่ชัดเจนว่าพวกเขาจะไม่กลับบ้านไปไหน