
กลุ่มฮามาสเตือนอิสราเอล หากเพิ่มความตึงเครียดทางทหารต่อชาวปาเลสไตน์ อาจนำไปสู่การเสียชีวิตของตัวประกันที่ยังเหลืออยู่ในฉนวนกาซา
โดยอาบู โอเบดา โฆษกปีกทหารของฮามาสกล่าวในคลิปวีดิโอที่เปิดเผยวานนี้ (6 มีนาคม) การที่อิสราเอลขู่ว่าสงครามกาซาจะหวนกลับมาใหม่ และการปิดทางไม่ให้ความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซาหลังจบการหยุดยิงระยะแรกนั้น จะไม่นำไปสู่การปล่อยตัวประกัน และฮามาสพร้อมรับทุกสถานการณ์ รวมถึงฟื้นการสู้รบกับอิสราเอลด้วย
ทั้งนี้ ข้อตกลงหยุดยิงกาซาระยะแรกนาน 6 สัปดาห์เพิ่งสิ้นสุดลงไปเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว (1 มีนาคม) ในขณะที่การเจรจาหยุดยิงระยะที่ 2 ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน อิสราเอลก็ได้เริ่มปิดล้อมฉนวนกาซา ไม่ให้ความช่วยเหลือและสินค้าเข้าสู่กาซาได้อีกหลังข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกสิ้นสุด โดยเรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมด แต่ไม่ยอมเริ่มการเจรจาระยะ 2 ที่จะรวมถึงอิสราเอลถอนทหารทั้งหมดออกจากกาซาและจบสงครามกาซา

สรุปข่าว
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้ (6 มีนาคม) สหรัฐฯ กำลังเจรจาตรงกับฮามาสเกี่ยวกับตัวประกันชาวอเมริกันและอิสราเอลที่ยังถูกฮามาสจับไว้ในกาซา
แต่ทรัมป์ยืนยันว่า การที่สหรัฐฯ เจรจาโดยตรงกับฮามาสนั้น เป็นการช่วยเหลืออิสราเอล สหรัฐฯ ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงกับฮามาส ไม่ได้เสนอเงินเพื่อแลกกับตัวประกันแต่อย่างใด ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีจุดยืนมานานว่า จะไม่เจรจาตรงกับกลุ่มที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเป็นองค์กรก่อการร้าย
ด้านสตีฟ วิทคอฟ ทูตพิเศษตะวันออกกลางสหรัฐฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จุดประสงค์การเจรจาตรงกับฮามาสดังกล่าว เพื่อให้ฮามาสปล่อย "เอแดน อเล็กซานเดอร์" ตัวประกันชายชาวอเมริกันอายุ 21 ปีจากรัฐนิวเจอร์ซี ซึ่งเชื่อว่า เป็นตัวประกันชาวอเมริกันคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ในมือฮามาส วิทคอฟระบุว่า การช่วยชีวิตเอแดน อเล็กซานเดอร์เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับสหรัฐฯ ในขณะนี้
วิทคอฟยืนยันตามที่สื่อรายงานว่า "อดัม โบห์เลอร์" ทูตพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าด้วยเรื่องตัวประกันโดยเฉพาะ เป็นผู้เจรจาตรงกับกลุ่มฮามาสในครั้งนี้ ยืนยันว่า การเจรจาตรงกับฮามาสเพิ่งเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และสารที่สหรัฐฯ ส่งถึงฮามาสคือ สหรัฐฯ ต้องการให้ตัวประกันได้กลับบ้าน
วิทคอฟระบุว่า จะเดินทางเยือนตะวันออกกลางรวม 4 ประเทศในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม อิสราเอลประเมินว่า ยังเหลือตัวประกันที่ฮามาสจับไว้ในกาซา 59 คน แต่เชื่อว่า ที่ยังมีชีวิตอยู่ในจำนวนนี้ มี 24 คนเท่านั้น