เนทันยาฮู เดินทางถึงฐานทัพอากาศแอนดรูว์ ในรัฐแมริแลนด์ของสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ ก่อนที่เขาจะเดินทางเข้าสู่กรุงวอชิงตันดี.ซี และได้พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันต่อมา ผู้นำอิสราเอลอธิบายการพบกันครั้งนี้ว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” อนาคตของอิสราเอล
- ประเด็นฉนวนกาซา
โดยประเด็นหลักที่ทั้งสองได้หารือกันคือประเด็นเกี่ยวกับ ฉนวนกาซา และ ข้อตกลงหยุดยิงที่สหรัฐฯ รวมถึงอีกหลายประเทศที่เข้ามาเป็นคณะผู้ไกล่เกลี่ยช่วยทำให้ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นได้ในที่สุด และจากการหารือเกี่ยวกับฉนวนกาซานี้เองทำให้เกิดวาทะกรรมของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เป็นไวรัลและถูกวิพากย์วิจารณ์ไปทั่วโลกว่า “สหรัฐฯ ต้องการเข้ายึดครองฉนวนกาซา” และขอให้ชาวปาเลสไตน์ออกนอกพื้นที่ไปหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งผู้นำอิสราเอลชื่นชมความคิดของทรัมป์ว่า “ควรแค่การแก่ฟัง” สำหรับข้อตกลงหยุดยิงทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเขาเชื่อมั่นในอิสราเอลที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงนี้ไปได้จนจบทั้ง 3 ระยะ
ขณะเดียวกัน อัลจาซีรารายงานว่าผู้นำอิสราเอลได้แสดงความต้องการระหว่างหารือกับทรัมป์ว่าเขาอยากจะต่อสู้ต่อในฉนวนกาซาเร็ว ๆ นี้ และอยากจะคงทหารอิสราเอลไว้ในพื้นที่บางส่วนของซีเรียและเลบานอนด้วย นอกจากนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามผู้นำอิสราเอลเกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันที่เกิดขึ้นว่าควรยกความดีความชอบให้ทรัมป์หรือไบเดน เขาตอบว่าทรัมป์ใช้ความเป็นผู้นำที่ทรงพลังเข้ามาช่วยเหลือซึ่งตัวเขาเองรู้สึกชื่นชมอย่างมาก
- ประเด็นสันติภาพระหว่างอิสราเอล-ซาอุดีอาระเบีย-ตะวันออกกลาง
นี่เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ผู้นำทั้งสองได้ยกขึ้นมาหารือ เนทันยาฮูกล่าวว่าเขาเชื่อมั่นในสันติภาพระหว่างอิสราเอลและซาอุดีอาระเบียซึ่งมันไม่เพียงแต่เป็นไปได้แต่เนทันยาฮูยืนยันว่ามันจะเกิดขึ้น ขณะที่ทรัมป์เห็นด้วยและกล่าวว่าซาอุดีอาระเบียจะให้การช่วยเหลือที่ดีและจะ “ทำในสิ่งที่จำเป็น” เพื่อบรรลุสันติภาพในตะวันออกกลาง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอล-ซาอุดีอาระเบีย ตกต่ำลงตั้งแต่ที่เกิดปฏิบัติการโจมตีในฉนวนกาซาเมื่อปี 2023 และทำให้ซาอุดีอาระเบียตกอยู่ในสภาพเป็นผู้นรับความโกรธแค้นจากชาติอาหรับต่อการกระทำของอิสราเอล โดยที่สหรัฐฯ พยายามใช้วิธีทางการทูตนานหลายเดือนเพื่อสานสัมพันธ์ให้อิสราเอลและซาอุดีอาระเบียสามารถกลับมาปรับความเข้าใจได้อีกครั้ง
แต่อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับซาอุดีอาระเบียเพราะหลังทรัมป์ประกาศจะยึดกาซา ทางการซาอุดีอาระเบียแถลงว่าจะไม่สานสัมพันธ์กับอิสราเอลโดยไม่มี “รัฐปาเลสไตน์” ซึ่งเป็นจุดยืนที่ชัดเจนของซาอุดีอาระเบียเรื่อยมา
สรุปข่าว
- ประเด็นศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)
อีกหนึ่งประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างผู้นำอิสรเอลเยือนสหรัฐฯ คือล่าสุดเมื่อวานนี้ (6 กุมภาพันธ์) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร “คว่ำบาตร” ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC เขากล่าวว่าการออกหมายจับของ ICC เป็นการกระทําที่ผิดกฎหมายที่มุ่งเป้าไปสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ใกล้ชิดอย่างอิสราเอล อีกทั้งยังกล่าวว่า ICC ขัดขวางการป้องกันตัวเองของอิสราเอล แต่กลับเพิกเฉยต่ออิหร่านและกลุ่มต่อต้านอิสราเอล อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ตอบกลับทรัมป์ว่ารู้สึก “เศร้าใจ” กับการลงนามคว่ำบาตรเพราะการดำเนินงานของศาลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อไม่ให้มีผู้หลีกเลี่ยงไม่ต้องรับโทษ
ทั้งนี้ ระหว่างการหารือของผู้นำทั้งสอง นายกรัฐนตรีเนทันยาฮู ยังได้มอบ “เพจเจอร์ทองคำ” เป็นของขวัญแก่ทรัมป์ ซึ่งของขวัญชิ้นนี้พาดพิงไปถึงเหตุการณ์เพจเจอร์ระเบิดทั่วเลบานอนเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยมีอิสราเอลเป็นผู้อยู่เบื้องต้นเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และทรัมป์ก็ได้ตอบกลับว่าปฏิบัติการครั้งนั้นเป็นเรื่องดีเยี่ยม
ที่มาข้อมูล : BBC / Aljazeera / Reuters
ที่มารูปภาพ : Reuters / Israel Government Press Office