แพทย์อิสราเอลแถลงผลตรวจสุขภาพของแรงงานไทยหลังได้รับการปล่อยตัว

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล แถลงที่ศูนย์การแพทย์ชามีร์ซึ่งเป็นที่รักษาตัวของแรงงานไทยทั้ง 5 คนว่าประเทศไทยรอต้อนรับตัวประกันชาวไทย หลังได้รับการปล่อยตัวโดยกลุ่มฮามาสเมื่อวานนี้ (30 มกราคม) โดยพรรณนภายังกล่าวขอบคุณรัฐบาลอิสราเอลสำหรับบทบาทของฝั่งอิสราเอลในการส่งตัวประกันกลับประเทศ รวมทั้งขอบคุณโรงพยาบาลที่ดูแลคนไทยเป็นอย่างดี

พรรณนภา เผยด้วยว่าเธอรู้สึกขอบคุณทุกคนในวันนี้ เธอรอคอยวันนี้มานานมากและแทบหายใจไม่ออกเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอเฝ้าดูทางทีวีอยู่ตลอด และไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น พลเมืองไทยในประเทศไทย รัฐบาลทั้งหมด และทุกคนก็ตั้งตารอต้อนรับตัวประกันทั้งห้าคนเช่นกัน นอกจากนี้ เธอยังเผยว่าตัวประกันชาวไทยได้พูดคุยกับครอบครัวในประเทศไทยแล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังทำงานเกี่ยวกับการกำหนดเดินทางให้พวกเขา เนื่องจากผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต

ขณะที่ ออสนัท เลฟต์ซิออน-โครัช แพทย์อิสราเอลแถลงว่า ตัวประกันไทยบางคน “ไม่เห็นแสงสว่างระหว่างถูกควบคุมตัว” เนื่องจากพวกเขาถูกควบคุมตัวอยู่ใต้ดินเกือบตลอดเวลา 15 เดือนที่ผ่านมา ส่วนสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับ “พอใช้” และไม่พบปัญหาขาดแคลนโภชนาการ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอายุที่ยังไม่มากของพวกเขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รอดชีวิตจากการถูกจองจำ

อย่างไรก็ตาม หลังจากภาพการปล่อยตัวประกันในเมืองข่านยูนิสที่เต็มไปด้วยความโกลาหลถูกเผยแพร่ออกไปทำให้ทางการอิสราเอลตัดสินใจได้เลื่อนการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์กะทันหันโดยให้เหตุผลว่าฮามาสไม่สามารถจัดการปล่อยตัวประกันให้เป็นไปอย่างราบรื่นแต่กลับเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล แถลงว่าการที่ได้เห็นการส่งมอบตัวประกันในสภาพที่ถูกรุมล้อมด้วยฝูงชนเช่นนี้ น่าตกใจอย่างมาก พร้อมกับขู่ว่าจะสังหารใครก็ตามที่ทำร้ายตัวประกัน อีกทั้งเขาเรียกร้องไปยังคณะผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อทำให้แน่ใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก

ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาอิสราเอลได้ตัดสินใจส่งตัวประกันซึ่งเป็นนักโทษชาวปาเลสไตน์อีกครั้ง โดยรถบัสหลายคันที่บรรทุกนักโทษปาเลสไตน์เดินทางออกจากเรือนจำโอเฟอร์ในอิสราเอล ซึ่งล่าสุดฮามาสยืนยันแล้วว่านักโทษปาเลสไตน์ 110 คนเดินทางกลับถึงบ้านของพวกเขาแล้ว