แนวปะการัง "เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ" ฟอกขาวเข้าขั้น "หายนะ"
ผลการศึกษาฉบับล่าสุดที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 22 มกราคม พบว่า ความร้อนของมหาสมุทรที่สูงเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา ทำให้แนวปะการังขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นอกชายฝั่งประเทศออสเตรเลีย อย่าง Great Barrier Reef นั้น ฟอกขาวเข้าขั้น "หายนะแล้ว"
นักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียเผยว่า กว่า 50% ของปะการังที่อยู่ตอนใต้ของแนวดังกล่าว ตายลงเมื่อปีที่แล้วระหว่างที่เกิด "การฟอกขาวครั้งรุนแรงและเป็นวงกว้าง" ที่สุดที่เคยเจอ
ในปี 2024 ทั่วโลกเผชิญกับฤดูร้อนที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้อุณหภูมิของมหาสมุทรแตะระดับสูงทีุ่สด ทำให้เกิด "การฟอกขาวครั้งที่ 7" ของ Great Barrier Reef แห่งนี้ ทำให้ปะการังกลายเป็นสีขาว เนื่องจากความร้อนของน้ำทำให้ปะการังเกิดความเครียด และขับสาหร่ายออกจากร่างกายของตัวเอง จนในที่สุดก็ไม่เหลือสีอยู่เลย
สาเหตุหลักคือ การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่เป็นเหตุให้โลกร้อนขึ้น อีกทั้งความเสียหายของปะการังยังเกิดเร็วขึ้น โดยมีปรากฎการณ์เอลนีโญเป็นตัวเร่งด้วย
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ได้ติดตามเฝ้าดูกลุ่มปะการัง 462 กลุ่มที่เกาะวันทรี ตลอด 5 เดือนเมื่อปีที่แล้ว โดยในเดือนพฤษภาคม พบว่า กลุ่มปะการัง 370 กลุ่ม มีอาการฟอกขาว - และภายในเดือนกรกฎาคม 52% ของปะการังที่ฟอกขาวนั้น ก็ตายลง
นอกจากนี้ ยังพบว่า ปะการังบางสายพันธุ์ที่เฝ้าติดตามนั้น มีอัตราการตายมากถึง 95% ซึ่งนักวิจัยชี้ว่า นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ "การล่มสลายของอาณานิคมปะการัง" เพราะโครงปะการังที่ตาย จะหลุดออกจากแนวปะการัง และกลายเป็นเศษหินในทะเลต่อไป
มาเรีย บาร์น ผู้นำการวิจัย จากสถาบันวิทยาศาสรตร์ชีวิต และสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ระบุว่า การค้นพบครั้งนี้ จะยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเพื่อปกป้องแนวปะการัง ที่ไม่เป็นเพียงจุดสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความมั่นคงทางอาหาร และการปกป้องแนวชายฝั่งด้วย
สรุปข่าว