ครบรอบ 17 ปี ป.ป.ท. ตั้งเป้าทำคดีรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม

นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ประจำปี 2568  พร้อมมอบโล่รางวัลพนักงาน ป.ป.ท.เนื่องในโอกาสวันคล้าย วันสถาปนาครบรอบ 17 ปีสำนักงานป.ป.ท. ภายใต้แนวคิด “พลังศรัทธา พลังล่าทุจริต” โดยมีนายอำนาจ พวงชมภู ประธานกรรมการ ป.ป.ท. คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ทั่วประเทศ เข้าร่วมงาน 

ครบรอบ 17 ปี ป.ป.ท. ตั้งเป้าทำคดีรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม

สรุปข่าว

“ภูมิธรรม” มอบนโยบาย ป.ป.ท. วันสถาปนาครบรอบ 17 ปี ขอ ทำคดีรวดเร็วโปร่งใส เป็นธรรม ไม่ถูกแทรกแซง ระบุเตรียมเพิ่มกำลังตามแนวชายแดน ร่วมปราบยาเสพติด ซีลชายแดน2 ชั้น พร้อมประกาศตัวชี้วัดในห้วง 6 เดือนให้เห็นผล 30 มกราคมนี้

นายภูมิธรรม กล่าวว่า แม้การทำหน้าที่ของ ป.ป.ท.จะเป็นแบบดปิดทองหลังพระแต่เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตถือเป็นการดูแลประชาชนอีกด้านหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลนี้พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานนี้อย่างเต็มที่  อีกทั้งการดำเนินงานจะต้องมีความชัดเจนและได้รับความไว้วางใจจากประชาชน โดยการดำเนินคดีทุจริตในภาครัฐจะต้องมีการดำเนินงานในภาพรวมที่เป็นปัจจุบันไม่มีคดีตกค้างและมีการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้ยึดหลักดำเนินคดีทุจริตที่มีความรวดเร็ว เป็นธรรม โปร่งใสไม่เลือกปฏิบัติและปราศจากการแทรกแซง พร้อมกันนี้ยังเน้นย้ำในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดซึ่งรัฐบาลเตรียมที่จะเปิดปฏิบัติการสิวพื้นที่ชายแดนใน 51 อำเภอ 14 จังหวัด 76 สถานีตำรวจ โดยจะมีการเปิดปฏิบัติการอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มกราคมนี้ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะปราบปรามยาเสพติด ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องมีจุดพักยาเสพติด ดังนั้นเรื่องนี้นายอำเภอและผู้กำกับสถานีตำรวจจะต้องร่วมมือกันในการดูแลส่วนตามแนวชายแดน มีกรมการชายแดนทหารดูแลจำเป็นที่จะต้องมีการเสริมเจ้าหน้าที่เข้าไปเพิ่ม เพื่อดูแลตามแนวชายแดน 

ทั้งนี้ในภูมิธรรม ยังระบุถึงการเพิ่มกำลังพลตามแนวชายแดนจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อไหร่นั้น ว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการ อยู่แต่เมื่อมีการเปิดปฏิบัติการ คิกคอฟในวันที่ 30 มกราคมนี้ทุกอย่างจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้มีการประสานงานกับเหล่าทัพ ซึ่งดูแลด้านยุทธการ ว่าจะต้องเสริมกำลังพลตามแนวชายแดนเท่าไหร่ เพื่อให้การซีลตามแนวชายแดนเกิดประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้การเพิ่มกำลังอาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้นจะต้องมีการชีลชายแดนตรงจุดพักยาต่างๆ ใน 51 อำเภอชายแดนและ 76 สถานีตำรวจ จึงมีส่วนสำคัญเท่ากับว่าเป็นการซีลชายแดนถึง 2 ชั้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าการประกาศปฏิบัติการในวันที่ 30 มกราคมนี้ ทุกอย่างจะเห็นผลตามที่กำหนดไว้ภายใน 6 เดือน และต้องมีตัวชี้วัดให้ยาเสพติดลดลง และต้องคลี่คลายปัญหาต่างๆให้กับประชาชน  ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปรับตัวชี้วัดอยู่  ให้มีความเหมาะสมโดยมอบหมายให้พลเอกนิพัทธ์ทองเล็กที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีประสานงานกับเลขาธิการป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าตัวชี้วัดที่วางไว้เหมาะสมหรือไม่ เพราะบางส่วนยังต้องหารือเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะถ้ากำหนดตัวชี้วัดไม่เป็นรูปธรรมหรือมีความชัดเจน ก็อาจจะคลาดเคลื่อนได้  

ส่วนตัวชี้วัดโทษสูงสุดถึงขั้นปลดย้าย ในตำแหน่งหน้าที่ใช่หรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่าในวันที่ 30 มกราคมนี้ถึงจะมีความชัดเจน


 

ที่มาข้อมูล : tnn

ที่มารูปภาพ : tnn