
เว็บไซต์ข่าวเดอะ ไทมส์ ออฟ อิสราเอลรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าววานนี้ (21 มกราคม) ที่ทำเนียบขาวว่า เขากำลังคิดจะเยือนตะวันออกกลาง แต่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ในช่วงที่ตัวประกันกำลังได้รับการปล่อยตัวอยู่ในขณะนี้
แต่เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐ ชุดใหม่ของทรัมป์ ที่มีแผนจะเยือนตะวันออกกลางค่อนข้างแน่คือ สตีฟ วิทคอฟ ทูตตะวันออกกลางคนใหม่ของทรัมป์ ยืนยันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 มกราคม) ว่า เขากำลังวางแผนจะเดินทางเยือนฉนวนกาซา เพื่อตรวจดูการปฏิบัติตามข้อตกลงปล่อยตัวประกัน
ทรัมป์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ตัวประกันกำลังได้กลับบ้าน พร้อมกับอ้างความดีความชอบการบรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกันอีกครั้งว่า ถ้าไม่ได้เขามาเป็นประธานาธิบดีอยู่ตรงนี้ ตัวประกันอาจไม่ได้กลับบ้านเลย และอาจเสียชีวิตทั้งหมด เป็นเพราะเขาขีดเส้นตายจึงสามารถทำให้พวกเขาบรรลุข้อตกลง
โดยทรัมป์ได้ขู่ว่า "จะต้องเจอดีแน่" ในตะวันออกกลาง ถ้าหากไม่บรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกันภายในวันสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาเมื่อ 20 มกราคมที่ผ่านมา
ด้านแหล่งข่าวนักการทูตอาหรับหลายคนกล่าวต่อเดอะ ไทมส์ ออฟ อิสราเอล ว่า ยกความดีความชอบให้แก่ทรัมป์และวิทคอฟ ที่ช่วยทำให้ข้อตกลงก้าวข้ามเส้นชัยได้สำเร็จ ด้วยการกดดันนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล
ทรัมป์กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่เห็นตัวประกันบางคนกลับมาในสภาพที่ต้องสูญเสียอวัยวะ โดยทรัมป์กล่าวถึง "เอมิลี ดามาริ" ตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 มกราคม) ได้สูญเสียนิ้ว 2 นิ้ว เนื่องจากถูกยิงระหว่างถูกฮามาสจับเป็นตัวประกันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปี 2023 ทรัมป์ย้ำว่า เหตุฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปี 2023 นั้น ไม่ควรเกิดขึ้นเลย

สรุปข่าว