จับตาหุ้นไทย! ชี้เสี่ยงแต่โอกาสหลุด 1,000 จุดน้อย - ทองคำรอจังหวะซื้อหลังปรับฐาน WEALTH LIVE

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE ประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย (SET Index) และแนวโน้มราคาทองคำ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

สรุปข่าว

ประกิต สิริวัฒนเกตุ (บลจ.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์) ชี้หุ้นไทยยังเสี่ยงจากปัจจัยนอก โดยเฉพาะความตึงเครียด สหรัฐฯ-จีน อาจกดดันดัชนีได้อีก แต่ประเมินโอกาส SET หลุด 1,000 จุดรอบนี้ยังมีน้อย เนื่องจากแรงขายต่างชาติเริ่มเบาลง แม้ระยะสั้นอาจผันผวน แต่มีมาตรการตลาดช่วยพยุง

หุ้นไทย เสี่ยงแต่ไม่น่าหลุด 1,000 จุด

คุณประกิตยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลดลงได้อีก จากความไม่แน่นอนของปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ยังคงร้อนแรงและอาจมีมาตรการตอบโต้เพิ่มเติม ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทย

"พรุ่งนี้ก็อาจจะมีคลื่นกระแทก หุ้นฮ่องกง หุ้นจีนก็อาจจะมีโดนกดดันแล้วก็ลงอีก หุ้นไทยก็อาจจะมีโดน" คุณประกิตกล่าว พร้อมชี้ให้เห็นสัญญาณที่ไม่ดีจากตลาดหุ้นเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความเสี่ยง คุณประกิตมองว่า โอกาสที่ SET Index จะหลุดระดับ 1,000 จุดในรอบนี้ยังมีน้อย เนื่องจากสังเกตเห็นสัญญาณบวกบางประการ ได้แก่

  1. แรงขายต่างชาติเบาลง: เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า แรงขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยดูเหมือนจะลดความรุนแรงลง "ผมรู้สึกว่าแรงขายมันเบาลง... มันดูเหมือนแรงขายมันไม่ได้หนักเหมือนเดิม" ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ดัชนีไม่ปรับตัวลงลึก
  2. มาตรการพยุงตลาด: มาตรการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เช่น การห้าม Short Sell ชั่วคราว และการปรับเกณฑ์ Dynamic Price Band ให้แคบลง (+/- 5%) มีส่วนช่วยลดความผันผวนและประคองตลาดไม่ให้ปรับตัวลงรุนแรงเกินไป
  3. เชิงเทคนิค: การที่แรงขายเบาลง อาจทำให้ในทางเทคนิค ดัชนีไม่จำเป็นต้องปรับตัวลงไปลึกมากนัก

ส่วนมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการผ่อนคลาย LTV และการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง (สำหรับบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาท) คุณประกิตมองว่าจะช่วย "ประคับประคอง" ได้บ้าง แต่ไม่น่าจะกระตุ้นกำลังซื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ ตราบใดที่กำลังซื้อในประเทศยังอ่อนแอ เว้นแต่จะมีการลดดอกเบี้ยนโยบายลงแรงๆ ควบคู่กับราคาบ้านที่ปรับลดลง

ทั้งนี้ คุณประกิตคาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในการประชุมเดือนเมษายนนี้ เหลือ 1.75% และมีโอกาสลดลงอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ สู่ระดับ 1.25%

ทองคำ: ปรับฐานระยะสั้น - ระยะยาวยังน่าสนใจ แต่รอจังหวะซื้อ

สำหรับทิศทางราคาทองคำ คุณประกิตเผยว่าตนได้แนะนำให้ขายทำกำไรไปก่อนหน้านี้ โดยมองว่าการปรับตัวลงของทองคำในช่วงนี้อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ:

  1. อิ่มตัวกับข่าวร้าย: ตลาดรับรู้ปัจจัยลบไปมากแล้ว ทำให้เกิดแรงเทขายทำกำไร
  2. ความกังวล Recession: ความไม่แน่นอนสูงจากนโยบายของสหรัฐฯ อาจนำไปสู่ความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession Fear) ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง และอาจรวมถึงทองคำเพื่อเสริมสภาพคล่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่น่ากังวลและอาจกดดันให้ราคาทองคำลงได้อีก

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว คุณประกิตมองว่าทองคำยังมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ได้แก่:

  • ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์: หากความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนตึงเครียดขึ้นหลังยุคการค้า อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในรูปแบบอื่น โดยเฉพาะในทะเลจีนใต้ ซึ่งจะหนุนราคาทองคำ
  • การสะสมทองคำของธนาคารกลาง: หลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่ม Emerging Market รวมถึงจีน มีแนวโน้มสะสมทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ และป้องกันความเสี่ยงจากการถูกแซงก์ชัน ซึ่งจีนยังมีสัดส่วนการถือครองทองคำไม่ถึง 10% ของทุนสำรองทั้งหมด ยังมีช่องว่างให้ซื้อเพิ่มได้อีกมาก

แม้ระยะยาวทองคำจะน่าสนใจ แต่ปัจจุบันยังอยู่ใน ช่วงปรับฐาน จึงยังไม่แนะนำให้รีบเข้าซื้อ "ควรรอยังไม่น่ารีบเข้าไปซื้อแล้วกัน มันอยู่ในช่วงปรับฐานน่ะ มันรอก่อนแล้วกัน" สำหรับผู้ที่มีทองคำอยู่แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ควรรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อเพิ่ม

avatar

ยุรพงษ์ ปุณยพรรัตน์