หุ้นไทยต่ำสุดในรอบ 5 ปียังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ? I WEALTH LIVE 12 มีนาคม 2568

จับสัญญาณตลาดการลงทุน วิเคราะห์แนวโน้มและโอกาส

SET Index ใกล้ระดับแนวรับสำคัญ

คุณฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ AISA ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย หลักทรัพย์ กรุงศรี ให้สัมภาษณ์ใน รายการ WEALTH LIVE ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยว่า SET Index กำลังเคลื่อนตัวอยู่ในโซนที่ใกล้ระดับแนวรับสำคัญที่ 1,150 จุด โดยมองว่าเป็นระดับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตโควิด ซึ่งหากดัชนียังสามารถรักษาระดับนี้ไว้ได้ อาจเป็นจุดที่ทำให้ตลาดเริ่มสร้างฐานกลับตัว อย่างไรก็ตาม หากดัชนีทำจุดต่ำสุดใหม่ (New Low) อาจมีความเสี่ยงที่ตลาดจะปรับตัวลงต่อ

สรุปข่าว

ตลาดหุ้นไทยกำลังอยู่ในช่วงสำคัญที่ต้องจับตาทั้งปัจจัยภายในและภายนอก นักลงทุนควรพิจารณาเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาด

ปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้น

ปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ประกอบไปด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะเรื่องการค้าระหว่างประเทศ การขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลาง นอกจากนี้ ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพากลุ่มพลังงานและ Old Economy มากกว่ากลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งแตกต่างจากตลาดหุ้นในเอเชียเหนือที่มีสัดส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสูงกว่า

หุ้นกลุ่ม ESG และโอกาสจากกองทุนใหม่

ปัจจัยบวกที่อาจช่วยพยุงตลาดคือการเปิดตัวกองทุน ESG ซึ่งอาจช่วยลดแรงขายจากกองทุน LTF เดิม และกระตุ้นการลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของเม็ดเงินใหม่ยังต้องจับตาดูว่าจะสามารถหนุนตลาดได้มากเพียงใด

สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาส คุณฐกฤตแนะนำให้พิจารณาหุ้นในกลุ่ม Deep Value ที่ราคาปรับตัวลงมาแล้ว และมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง กลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่

  • ค้าปลีก: CPALL, HomePro
  • โรงพยาบาล: BCH, BDMS
  • ธนาคาร: BBL, KBank
  • ท่องเที่ยวและสนามบิน: MINT, AOT
  • บรรจุภัณฑ์: SCGP
  • โรงไฟฟ้า: GPSC

ในขณะที่กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากนโยบายด้านภาษีและสงครามการค้า ราคาน้ำมันอาจถูกกดดันจากมาตรการควบคุมราคาพลังงานของหลายประเทศ นักลงทุนควรติดตามปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด

อสังหาริมทรัพย์: โอกาสและความเสี่ยง

แม้ภาพรวมอสังหาฯ จะยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน แต่มีความคาดหวังว่ารัฐบาลอาจออกมาตรการกระตุ้น เช่น การผ่อนคลาย LTV หากเกิดขึ้นจริง หุ้นที่อาจได้รับประโยชน์ ได้แก่ AP, ศุภาลัย และแสนสิริ โดยเฉพาะแสนสิริที่ถูกมองเป็นหุ้น Top Pick จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่ง

แนวโน้มการกลับตัวของตลาด

ตลาดหุ้นไทยยังต้องรอปัจจัยหนุนเพิ่มเติม เช่น การฟื้นตัวของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ และสัญญาณทางเทคนิคที่ชัดเจน โดยระดับ 1,200-1,220 จุด จะเป็นด่านสำคัญ หากสามารถทะลุขึ้นไปได้ อาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการกลับตัวของตลาดในไตรมาสแรกของปีนี้