ตลท. ผนึกเฟทโก้-กสศ. ชวนภาคธุรกิจบริจาคคอมพิวเตอร์แก่โรงเรียนขาดแคลน

ในโอกาสครบรอบการดำเนินงาน 50 ปี ในปี 2568 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดำเนิน “โครงการ 50 ปี ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนทำความดีเพื่อสังคม” ผ่าน 3โครงการเพื่อประโยชน์แก่สังคมโดยหนึ่งใน 3 โครงการดังกล่าว คือ “โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อเด็กไทย ใส่ใจเรื่องการเงิน” ซึ่งโครงการนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดำเนินการร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โดยมุ่งหวังที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาพร้อมปลูกฝังความรู้ด้านการเงินแก่เยาวชนไทย 


นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการ 50 ปีตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนทำความดีเพื่อสังคม เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่เพียงมุ่งมั่นพัฒนาตลาดทุนแต่ยังดูแลรับผิดชอบการพัฒนาเพื่อสังคมส่งเสริมให้มีรากฐานและคุณภาพชีวิตที่ดีผ่านการดำเนิน “โครงการ คอมพิวเตอร์เพื่อเด็กไทย ใส่ใจเรื่องการเงิน” โดยมุ่งหวังที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เปิดโอกาสให้นักเรียนเข้าถึงสื่อดิจิทัลและแหล่งความรู้ออนไลน์เพื่อการพัฒนาตนเอง 


ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นตัวกลางเชื่อมโยงภาคธุรกิจให้มาร่วมกันบริจาคคอมพิวเตอร์ โดยมีเป้าหมาย 5,000 เครื่อง ภายใน 5 ปี อีกทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังจะสนับสนุนข้อมูลความรู้ด้านการเงินด้วยการติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่จะส่งมอบให้แก่โรงเรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การออมการลงทุน ปลูกฝังความรู้ด้านการเงินให้แก่นักเรียน ครูและผู้ปกครอง 

ตลท. ผนึกเฟทโก้-กสศ. ชวนภาคธุรกิจบริจาคคอมพิวเตอร์แก่โรงเรียนขาดแคลน

สรุปข่าว

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย รองประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนองค์กรภาคตลาดทุนมีความยินดีที่จะร่วมสนับสนุน “โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อเด็กไทย ใส่ใจเรื่องการเงิน” เนื่องด้วยประเทศไทยจะสามารถก้าวหน้าและพัฒนาอย่างยั่งยืนได้สิ่งสำคัญ คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์ และเข้าใจในโลกยุคใหม่ ดังนั้น เยาวชนไทยจึงจำเป็นต้องมีความรู้และทักษะด้านดิจิทัลอย่างเพียงพอ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีทักษะที่หลากหลาย เพื่อเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาตลาดทุนไทย รวมไปถึงเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนโครงการนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับภาคตลาดทุนและประเทศชาติในอนาคตต่อไป


ด้าน ดร. ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า การขาดแคลนทรัพยากรในโรงเรียนขนาดเล็กพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ส่งผลต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนการสำรวจขององค์การ OECD พบว่าโรงเรียนที่มีปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนมีแนวโน้มที่นักเรียนจะทำคะแนน PISA ได้น้อย กสศ.ยังสำรวจในช่วงโควิด-19 พบว่าเด็กเยาวชนยากจนในชนบทใช้อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือของพ่อแม่ไม่มีแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ ช่องว่างนี้เมื่อเทียบกับประชากรทั่วไปห่างกันถึง 10 เท่าโอกาสเดียวที่เด็กเหล่านี้จะได้ใช้ทรัพยากรเพื่อเรียนรู้พัฒนาทักษะต่างๆ คือ ที่โรงเรียน 


โดยการทำงานของกสศ.มุ่งระดมความร่วมมือทุกภาคส่วนสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โดยมีระบบฐานข้อมูลสารสนเทศที่เข้าใจความขาดแคลนของโรงเรียนเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของครูผู้บริหารโรงเรียนเครือข่ายชมรมนักจัดการศึกษาบนพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดารและสพฐ. สามารถตรวจสอบได้และยังประมวลเป็นแผนที่ชี้เป้าให้กับภาคส่วนต่างๆในระยะแรกจะสนับสนุนโรงเรียนที่มีความต้องการเร่งด่วนราว 200 แห่ง โครงการนี้จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรและงบประมาณอย่างเสมอภาคจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้แก่โรงเรียนเล็กห่างไกลทุรกันดารซึ่งเป็นแนวทางเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนที่กสศ.ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ ภาคตลาดทุนและภาคธุรกิจ รวมถึงผู้ที่สนใจจะร่วม “โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อเด็กไทย ใส่ใจเรื่องการเงิน”สามารถสนับสนุนได้ผ่าน 3 รูปแบบ คือ 1) บริจาคคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานแล้วและยังมีคุณภาพดี 2) บริจาคคอมพิวเตอร์ใหม่ (มือ 1) หรือ 3) สนับสนุนองค์ความรู้ตามความเชี่ยวชาญหรือตามศักยภาพของธุรกิจ (In kind Support)