พิษนโยบาย"ทรัมป์" OECD หั่นเป้าจีดีพีโลก คาด"เงินเฟ้อ"พุ่ง

ผลกระทบจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐที่เรียกเก็บไปยังประเทศคู่ค้าต่างๆ ทำให้ OECD ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐ 

องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ( 17 มีนาคม 2568 ) คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวสู่ระดับ 3.1% ในปี 2568  และ 3.0% ในปี 2569  นับเป็นการปรับตัวลดลงจากปี 2567 ที่ผ่านมาซึ่งมีการเติบโตที่ 3.2% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าสู่สหรัฐ การตั้งกำแพงภาษีในกลุ่มประเทศ G20 รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนด้านนโยบายส่งผลกระทบต่อการลงทุนของภาคเอกชน และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน

พร้อมกันนี้ OECD ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวสู่ระดับ 2.2% ในปี 2568  และ 1.6% ในปี 2569 

อย่างไรตามก่อนหน้านี้ ในรายงานเดือนธันวาคม ปี 2567 OECD คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.3% ทั้งในปีนี้และปีหน้า และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.4% และ 2.1% ในปีนี้และปีหน้าตามลำดับ จึงถือเป็นปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทั้งหมด 




พิษนโยบาย"ทรัมป์" OECD หั่นเป้าจีดีพีโลก คาด"เงินเฟ้อ"พุ่ง

สรุปข่าว

OECD ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐ เนื่องจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐที่เรียกเก็บไปยังประเทศคู่ค้าต่างๆ

ขณะที่การคาดการณ์สำหรับประเทศแคนาดา และประเทศเม็กซิโก  ซึ่งต่างก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐนั้น พบว่าแนวโน้มการเติบโตของสองประเทศนี้จะ "ลดลงอย่างมาก" คาดว่าเศรษฐกิจของแคนาดาจะเติบโตได้เพียง 0.7% ในปีนี้ ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 2% และคาดว่าเศรษฐกิจของเม็กซิโกจะหดตัวลง 1.3% เมื่อเทียบกับการขยายตัวที่ 1.2% ตามที่คาดการณ์ครั้งก่อน


นอกจากนี้ ในการเปิดเผยรายงาน OECD ยังได้ปรับขึ้นคาดการณ์เงินเฟ้อ หรือ คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปของสหรัฐ (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 2.8% ในปี 2568 นี้ เพิ่มขึ้นจากเดิมซึ่งคาดการณ์เอาไว้ที่ระดับ 2.1% ในเดือนธันวาคม2567 ขณะที่คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปของกลุ่ม G20 จะปรับตัวขึ้น 3.8% ในปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 3.5% ในเดือนธันวาคม 2567 โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core inflation) ปี 2568 ในหลายประเทศจะพุ่งสูงขึ้นกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง ซึ่งรวมถึงสหรัฐด้วย




ทั้งนี้การคาดการณ์ล่าสุดนั้น อิงตามสมมติฐานที่ว่าการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างแคนาดาและสหรัฐ กับระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีก 25% สำหรับสินค้าที่นำเข้าเกือบทั้งหมดตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 แต่หากอัตราภาษีถูกปรับลดลงมา หรือมีการจำกัดสินค้าที่ถูกเรียกเก็บภาษีน้อยลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจก็จะแข็งแกร่งขึ้นและอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่รายงานระบุว่าการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังคงอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ 

ที่มาข้อมูล : OECD

ที่มารูปภาพ : Freepik canva Reuters

avatar

ทิฆัมพร อยู่กำเหนิด