องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจล่าสุด ว่า การขยายตัวของ GDP โลกน่าจะอยูในระดับปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงจากปีที่แล้วที่โตร้อยละ 3.2 อยู่ที่ร้อยละ 3.1 ในปีนี้ และร้อยละ 3.0 ในปีหน้า
การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงเนื่องจากอุปสรรคทางการค้าที่เพิ่มขึ้นในสมาชิกบางรายของเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 แห่ง หรือกลุ่ม G20 ประกอบกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นด้านภูมิรัฐศาสตร์และนโยบาย จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการใช้จ่ายของครัวเรือน
นอกจากนี้ OECD ยังปรับคาดการณ์การขยายตัวของ GDP สหรัฐฯ ที่จะชะลอตัวลงอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ในปีนี้ และร้อยละ 1.6 ในปีหน้า
สรุปข่าว
ทั้งนี้ การคาดการณ์ล่าสุดลดลงจากเมื่อเดือนธันวาคม ซึ่ง OECD ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกจะโตร้อยละ 3.3 ในปีนี้และปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะโตราวร้อยละ 2.4 ในปีนี้ และร้อยละ 2.1 ในปีหน้า
OECD ระบุว่า การคาดการณ์ล่าสุดอ้างอิงตามสมมติฐานที่ว่า ภาษีทวิภาคีระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ และระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐฯ จะถูกปรับขึ้นอีกร้อยละ 25 สำหรับสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าเกือบทั้งหมดตั้งแต่เดือนเมษายน
หากการปรับขึ้นภาษีศุลกากรดังกล่าวอยู่ในอัตราที่ต่ำลงหรือครอบคลุมสินค้าน้อยลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจจะแข็งแกร่งขึ้นและอัตราเงินเฟ้อก็จะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะยังคงอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้