นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการอีซี่ อี – รีซีท (Easy E-Receipt)ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 - วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 มีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตฯ โดยหมวดที่มียอดการใช้จ่ายปรับตัวขึ้นได้แก่หมวด วาไรตี้สโตร์ เช่น การช้อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์ / บริการสั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์
ในปีนี้เราจะเห็นว่ามีร้านค้าออนไลน์เข้าระบบมากขึ้นเลยทำให้สมาชิกมีการใช้บริการทางช่องทางมากขึ้น และตัวผู้ให้บริการมีการปรับตัว และมีการพัฒนาระบบให้การใช้งานง่ายขึ้นจึงทำให้หมวดนี้มีการเติบโตค่อนข้างสูงในช่วงที่มีมาตรการอีซี่ อี – รีซีท (Easy E-Receipt)
สรุปข่าว
นอกจากนี้การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตยังได้รับอาสงค์จากสิทธิพิเศษของร้านค้าที่มีการผ่อน 0% เช่นในหมวดเทเลคอม หรือ โทรศัพท์มือถือโดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ทำให้สมาชิกได้ใช้สิทธิประโยชน์ 2 ต่อทั้งการผ่อน 0% และสิทธิ์อีซี่ อี – รีซีท (Easy E-Receipt) โดยปัจจุบันสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่มีการผ่อนชำระคิดเป็น10% ของพอรต์การใช้จ่ายทั้งหมด
Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2568 ใช้ได้ถึงวันไหน
ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า และบริการภายในประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68
ผู้เสียภาษี ต้องมีการใช้จ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง มาลดหย่อนภาษี ได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท
ลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท ซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)
ลดหย่อนเพิ่มเติมอีก 20,000 บาท ต้องใช้หลักฐาน e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เช่นกัน โดยซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP), ซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชน, ซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคม
ผู้เสียภาษี ต้องได้รับเอกสารยืนยันการใช้จ่ายในรูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เท่านั้น