ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth Social) ว่า กำลังดำเนินการ "ยกเลิกสัมปทาน" ของ "ข้อตกลงธุรกรรมน้ำมัน ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565" แม้จะไม่ได้ระบุชื่อเชฟรอนโดยตรง แต่วันดังกล่าวเป็นวันที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกใบอนุญาตเพียงฉบับเดียวให้บริษัทเชฟรอนดำเนินงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา
รองปธน.เวเนซุเอลา เดลซี โรดริเกซ ออกแถลงการณ์ผ่านแอปเทเลแกรม (Telegram) ว่า "การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทเชฟรอนของสหรัฐฯ นั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่สร้างความเสียหายและหาคำอธิบายไม่ได้" และกล่าวว่า "การตัดสินใจที่ล้มเหลวเช่นนี้" เป็นสาเหตุให้เกิดการอพยพออกจากเวเนซุเอลา
สรุปข่าว
ทั้งนี้ บริษัทเชฟรอนส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาประมาณ 240,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสี่ของการผลิตน้ำมันทั้งหมดของประเทศ การยกเลิกใบอนุญาตนี้จะทำให้เชฟรอนไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาได้อีกต่อไป และหากบริษัทน้ำมันแห่งชาติ PDVSA ของเวเนซุเอลาพยายามส่งออกน้ำมันเหล่านี้เอง โรงกลั่นของสหรัฐฯ ก็ไม่สามารถซื้อได้เนื่องจากติดมาตรการคว่ำบาตร
รายงานข่าวจากอุตสาหกรรมน้ำมันเวเนซุเอลาเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ภาษีและค่าภาคหลวงจากใบอนุญาตของเชฟรอนเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลมาดูโรตั้งแต่ต้นปี 2566 ส่งผลให้เศรษฐกิจของเวเนซุเอลาฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคน้ำมันและการธนาคารที่ขยายตัวเมื่อปีที่แล้ว
ช่วงต้นเดือนก.พ. ทรัมป์เคยประกาศว่า รัฐบาลเวเนซุเอลาตกลงที่จะรับผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาที่อยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายทั้งหมดกลับประเทศ พร้อมรับผิดชอบค่าเดินทาง หลังจากที่ริชาร์ด เกรเนลล์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ เข้าพบมาดูโรที่กรุงการากัสและนำตัวผู้ถูกคุมขังชาวอเมริกัน 6 คนกลับประเทศได้สำเร็จ
ทรัมป์ระบุว่าจะยกเลิกข้อตกลงสัมปทานน้ำมัน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ซึ่งเป็นวันครบกำหนดต่ออายุใบอนุญาต ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรือบรรทุกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาที่กำลังเดินทางมายังท่าเรือสหรัฐฯ หรือกำลังจะออกจากเวเนซุเอลาก่อนสิ้นเดือนนี้

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)