นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยว่า หอการค้าไทยขอขอบคุณคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีมติ 6 ต่อ 1 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 2.00% ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ในช่วงเวลาที่กำลังซื้อภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ท่ามกลางภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ยังคงเผชิญกับต้นทุนทางการเงินที่สูง ดังนั้น การลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระต้นทุนของภาคเอกชน สร้างบรรยากาศการลงทุน รวมถึงช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน
สรุปข่าว
อย่างไรก็ตาม นอกจากมาตรการลดดอกเบี้ยแล้ว หอการค้าฯ ยังอยากเห็นมาตรการเสริมเพื่อช่วยให้ SMEs และภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากในปัจจุบัน แม้ดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุน แต่หากเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อยังคงเข้มงวด ก็อาจทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงได้อย่างเต็มที่
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ก่อนอื่นขอขอบคุณคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่นำข้อเรียกร้องของภาคเอกชนไปพิจารณา และมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือ 2.00% ต่อปี โดยให้มีผลทันทีนั้น
ทั้งนี้ ถือเป็นข่าวดีของภาคเอกชน เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าว มีส่วนช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับผู้ประกอบการที่ต้องแบกรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งจากข้อมูลหนี้ภาคธุรกิจ SMEs ณ ไตรมาสที่ 4/2567 มียอดคงค้างหนี้สะสมอยู่ที่ 3.15 ล้านล้านบาท ถือว่ายังอยู่ในระดับที่สูงมาก
ดังนั้น การลดอัตราดอกเบี้ยนี้มีส่วนช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ SMEs รวมทั้งมีผลในเชิงจิตวิทยาทำให้ผู้ประกอบการมีกำลังใจมากขึ้นจากภาระทางการเงินที่ลดลง ขณะเดียวกันก็มีผลเชิงบวกต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคเช่นกัน
Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)