ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จัดประชุมที่เกิดขึ้นได้ยากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กับบุคคลสำคัญในภาคเทคโนโลยีของจีน เช่น แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba หวัง เฉวียนฝู ประธานและซีอีโอบริษัทบีวายดี เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยีส์ นายเหล่ย จวิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเสียวหมี่
ขณะที่แหล่งข่าว ระบุด้วยว่า เหลียง เหวินเฟิง ผู้ก่อตั้ง DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ทอัปที่คุกคามที่จะล้มล้างกิจการ AI ของอเมริกาด้วยโมเดล AI ราคาถูก เข้าร่วมการประชุมด้วย
สรุปข่าว
การชุมนุมสนับสนุนธุรกิจที่จัดขึ้นอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางของปักกิ่งต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากมาตรการปราบปรามด้านกฎระเบียบเมื่อ4 ปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความพยายามของสหรัฐอเมริกาในการจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน
ความเคลื่อนไหวของ ประธานาธิบดีสี ในการรวบรวมผู้นำธุรกิจ รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดแม้จะมีความกดดันจากสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงความสำคัญของนวัตกรรมภาคเอกชนสำหรับจีนในการก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
คริสโตเฟอร์ เบดเดอร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยจีนของ Gavekal Dragonomics ในฮ่องกง กล่าวว่า เป็นการยอมรับโดยปริยายว่ารัฐบาลจีนต้องการบริษัทภาคเอกชนสำหรับการแข่งขันด้านเทคโนโลยีกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งรัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสนับสนุนพวกเขาหากต้องการแข่งขันกับสหรัฐอเมริกา
ภาคเอกชนในประเทศจีน ซึ่งแข่งขันกับบริษัทของรัฐ มีส่วนร่วมมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ภาษี มากกว่าร้อยละ 60 ของผลผลิตทางเศรษฐกิจ และร้อยละ 70 ของนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ตามการประมาณการอย่างเป็นทางการ
ภาษีของสหรัฐฯ คุกคามแรงกดดันมากขึ้นต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ซึ่งกำลังประสบปัญหาจากการบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอและวิกฤตหนี้ที่ไม่มั่นคงในภาคอสังหาริมทรัพย์
