“เชฟรอน” บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ มีแผนจะปรับลดจำนวนพนักงานทั่วโลกราวร้อยละ 15-20 ภายในปี 2569 ซึ่งอาจกระทบพนักงานราว 9,000 คน เมื่อคำนวณจากจำนวนพนักงานทั้งหมด 46,500 คน นับถึงสิ้นปี 2566
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทเพิ่งย้ายสำนักงานใหญ่จากซานราโมนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ไปยังฮูสตัน รัฐเท็กซัส และตั้งเป้าลดต้นทุนโครงสร้างองค์กร 2-3 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2569
“มาร์ก เนลสัน” รองประธาน “เชฟรอน” ระบุในแถลงการณ์ล่าสุดว่า บริษัทกำลังดำเนินการเพื่อลดความซับซ้อนของโครงสร้างองค์กร ให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมวางตำแหน่งให้มีความสามารถด้านการแข่งขันในระยะยาวเพิ่มขึ้น
การปรับลดพนักงานครั้งล่าสุดเพิ่มแรงกดดันเกี่ยวกับจำนวนพนักงานด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ซึ่งยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนวิกฤตโควิดราวร้อยละ 10 แม้การผลิตในประเทศจะเพิ่มขึ้นใกล้เคียงสถิติสูงสุด ทั้งนี้การควบรวม การปรับปรุงประสิทธิภาพการขุดเจาะ และโฟกัสเรื่องกำไรมากกว่าปริมาณการผลิต นำไปสู่การปรับลดพนักงานและชะลอการจ้างงานเพิ่ม
ขณะที่ยักษ์น้ำมันอีกราย “เอ็กซ์ซอน โมบิล” ได้ปรับลดจำนวนพนักงานทั่วโลกลงร้อยละ 17 นับตั้งแต่ปี 2562 แม้การผลิตจะเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้ราคาหุ้นของ “เอ็กซ์ซอน” ทำผลงานได้ดีกว่า “เชฟรอน” ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ “ไมค์ เวิร์ธ” CEO ของเชฟรอน มีแผนจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องกระแสเงินสดควบคู่ไปกับการใช้จ่ายที่ไม่มากนักสำหรับโครงการใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้ความต้องการพนักงานลดลง
สรุปข่าว