กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน ระบุว่า เตรียมให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทท้องถิ่นที่มีแผนจะย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ เพื่อรับมือมาตรการภาษีใหม่ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ
ความช่วยเหลือต่าง ๆ รวมถึงการให้ข้อมูลแก่บริษัทที่ต้องการย้ายฐานการผลิต อาทิ รัฐต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ที่อาจเข้าไปลงทุน กฎหมายท้องถิ่นสหรัฐฯ และความช่วยเหลือในการหาพันธมิตรทางธุรกิจ
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตราร้อยละ 25 รวมถึงขึ้นภาษีศุลกากรร้อยละ 10 สำหรับการนำเข้าสินค้าจากจีน มาตรการดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเวลา 00.01 น. เข้าสู่วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามเวลาสหรัฐฯ
ไต้หวันมีบริษัทท้องถิ่นจำนวนมากผลิตสินค้าด้านเทคโนโลยี อาทิ เซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่เพียงแค่มีความเสี่ยงจากการที่บริษัทท้องถิ่นหลายแห่งมีโรงงานอยู่ในเม็กซิโกและจีน แต่ยังรวมถึงการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะจัดเก็บภาษีนำเข้าชิปอีกด้วย
นอกจากนี้ สถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของไต้หวันในอเมริกาเหนือยังจะช่วยส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา รวมถึงความร่วมมือในการผลิตระหว่างบริษัทไต้หวันกับบริษัทอเมริกัน
กระทรวงฯ ระบุด้วยว่า จะติดตามอย่างใกล้ชิดในเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านการค้าระหว่างประเทศและจะสื่อสารกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีไต้หวันที่มีโรงงานในเม็กซิโกร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ โดยราคาหุ้น “ฟ็อกซ์คอนน์” (Foxconn) ปิดตลาดลดลงร้อยละ 8.1 ด้าน “ควอนตา” (Quanta) ร่วงลงร้อยละ 9.8 และ “อินเวนเทค” (Inventec) ขยับลงร้อยละ 6.7
สรุปข่าว