
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงในวันพุธที่ 29 มกราคม 2568 ตามเวลาสหรัฐฯ โดยระบุว่า ข้อมูลที่เฟดได้รับเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่ง ขณะที่อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
คณะกรรมการ FOMC พยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว โดยคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าความเสี่ยงที่จะมีผลต่อการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและเงินเฟ้อนั้น ยังคงอยู่ในทิศทางที่มีความสมดุล ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน และคณะกรรมการยังคงให้ความสนใจกับความเสี่ยงที่จะมีต่อ Dual Mandate ของเฟด คือการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการฯ ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ส่วนในการพิจารณาเรื่องการปรับช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มเติมนั้น คณะกรรมการจะใช้ความระมัดระวังในการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า รวมทั้งแนวโน้มของพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และสมดุลของความเสี่ยง
นอกจากนี้ คณะกรรมการจะยังคงปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) โดยคณะกรรมการมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
ส่วนในการประเมินแนวทางที่เหมาะสมของนโยบายการเงินนั้น คณะกรรมการฯ จะยังคงจับตาข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯ จะเตรียมความพร้อมเพื่อปรับแนวทางนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เฟดไม่สามารถบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ของคณะกรรมการฯ โดยคณะกรรมการฯ จะประเมินข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ รวมถึงการพิจารณาสถานการณ์ทางการเงิน และสถานการณ์ในต่างประเทศ
สำหรับกรรมการเฟดผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ เจอโรม เอช พาวเวล ประธานเฟด, จอห์น ซี วิลเลียมส์ รองประธานเฟด,ไมเคิล เอส บาร์, มิเชล ดับเบิลยู โบว์แมน, ซูซาน เอ็ม คอลลินส์, ลิซา ดี คุก, ออสติน ดี กูลส์บี, ฟิลิป เอ็น เจฟเฟ
ทั้งนี้การคงดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้นับว่าเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด โดยก่อนหน้านี้ เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้วถึง 3 ครั้งติดต่อกันรวม 1.00% นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% และยังปรับลดอีก 0.25% ถึง 2 ครั้ง คือเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม 2568
อย่างไรก็ตามสัปดาห์ก่อนหน้าการประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้ออกมาส่งสัญญาณกดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยทันที ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม World Economic Forum (WEF) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เฟดก็ยังคงมีมติคงดดอกเบี้ยไว้ในวันนี้

สรุปข่าว
ที่มาข้อมูล : ธนาคารกลางสหรัฐฯ
ที่มารูปภาพ : Freepik