ทำไมต้อง"ซื้อหนี้ประชาชน" แนวคิดที่นายกฯฝันให้เป็นจริง สะท้อนอะไร

ประเด็นร้อนแนวคิด"ซื้อหนี้ประชาชน" ที่นายกรัฐมนตรีฝันอยากให้เกิดขึ้นจริง 

หลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรี "ทักษิณ ชินวัตร" ได้ออกมาเสนอแนวคิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ผ่าน ระบุอยากให้มีการ "ซื้อหนี้ประชาชน" โดยให้เอกชนมาลงทุนซื้อหนี้จากระบบธนาคาร แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน ไม่ต้องชำระเต็มจำนวน ได้ตั้งตัวใหม่ ออกจากระบบเครดิตบูโร เพื่อมาช่วยแก้ไขปัญหา "หนี้ครัวเรือน"


ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ออกมาย้ำภายหลังอีกเสียงว่าอยากให้ข้อเสนอเรื่อง "ซื้อหนี้ประชาชน" เกิดขึ้นได้จริง  และขอทุกฝ่ายอย่าโยงเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป็นความคิดของคนที่หวังดีต่อประเทศ  โดยระบุว่า เรื่องหนี้เป็นเรื่องที่นายทักษิณเอง เป็นนักธุรกิจมาก่อน และเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมา 6 ปี ก็เคยคุยกันเรื่องนี้อยู่แล้ว แล้วก็เป็นคนสนใจเรื่องเศรษฐกิจ มองเห็นปัญหาว่าปัญหาเรื่องหนี้เป็นปัญหาใหญ่ของประชาชน จึงหาทางช่วยว่ามีอะไรบ้างที่จะสามารถคิดขึ้นมาได้  และแน่นอนว่าเป็นความคิดของคนที่หวังดีกับประเทศ อย่ามองเป็นประเด็นการเมือง ถ้าเป็นการเมืองจริงๆ ต้องผ่านกระบวนการคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ผ่านสภา ผ่านการพูดคุย ไม่ใช่การครอบงำ แต่เป็นความคิดของคนที่มีความรู้เท่านั้นเอง


อย่างไรก็ตาม หากเราพูดถึง "หนี้" ที่คนไทยเป็นอยู่ตอนนี้ หรือ "หนี้ครัวเรือน" พบว่าอยู่ในภาวะวิกฤต 


คนไทยเกือบ 40  % ในประเทศตอนนี้ เป็นหนี้ในระบบเฉลี่ยแล้วมากกว่าหนึ่งแสนบาทต่อคน โดยวัยสร้างครอบครัวแบกหนี้หนักที่สุด และก็ยังคงเดินหน้าเป็นหนี้กันมากขึ้น 




สรุปข่าว

แนวคิด "ซื้อหนี้ประชาชน" เป็นไอเดียที่สะท้อนถึงปัญหา "หนี้ครัวเรือนไทย" ที่อยู่ในขั้นวิกฤต เพราะคนไทยเกือบ 40 % ในประเทศ เป็นหนี้ในระบบเฉลี่ยแล้วมากกว่าหนึ่งแสนบาทต่อคน และหนทางในการออกจากวงจรหนี้ก็ยาก เนื่องจากจำนวนหนี้ไม่ลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น มีรายได้ก็จริงแต่ก็โตไม่ทันรายจ่าย

ข้อมูลจากการวิเคราะห์ของทาง ttb analytics เปิดเผยสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย ล่าสุดจากปีที่ผ่านมา ปี 2567 พบว่า  

ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นวงกว้าง สะท้อนมาจากตัวเลขยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทย ณ ไตรมาส 3 ของปี 2567 ยังคงอยู่ในระดับสูงราว 16.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 89% ของจีดีพี แม้ว่าจะชะลอลงไปบ้างจากจุดสูงสุดในปี 2566 แต่เป็นการลดลงจากผลของการชะลอการปล่อยสินเชื่อเป็นหลัก  แถมระดับของหนี้ครัวเรือนไทยในปัจจุบันนี้ ยังนับว่าสูงกว่าอีกหลาย ๆ ประเทศที่มีรายได้ต่อหัวใกล้เคียงกัน  แม้กระทั่งคุณภาพหนี้ก็ยังย่ำแย่ลง หลังจากหมดมาตรการช่วยเหลือทางการเงินในช่วงโควิด-19


นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าห่วงหลายเรื่อง แตกต่างกันไปตามแต่ละกลุ่ม ตามช่วงวัย  ซึ่งทาง ttb analytics ได้เจอมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) ซึ่งมีบัญชีลูกหนี้ที่ไม่สามารถระบุตัวตน  มากกว่า 84 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้คงค้างกว่า 13.6 ล้านล้านบาท 


โดยฐานข้อมูลของ NCB พบว่า ปี 2567 คนไทยมีหนี้ในระบบเพิ่มขึ้น โดยมีหนี้ถึง 38  %  จากจำนวนประชากรทั้งหมด  เพิ่มขึ้นมาจาก 31% 

เมื่อปี 2561 ซึ่งหมายความได้ว่าคนเข้าถึงสินเชื่อที่ง่ายขึ้น บวกกับการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเป็นพิเศษในช่วงวิกฤตโควิด-19 

แต่ในขณะเดียวกัน "หนี้เสีย" ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จาก 17% ในปี 2561ขึ้นมาเป็น 22% ในปี 2567 ส่วนยอดหนี้สินเฉลี่ยลดลงเล็กน้อยจาก 148,000 บาทต่อคน เป็น 118,000 บาทต่อคน




ทั้งนี้เมื่อเราไปส่องดูหนี้สินของแต่ละวัย พบว่ากลุ่มของ "วัยสร้างครอบครัว" เป็นกลุ่มที่แบกหนี้มากที่สุด

คนไทยอายุตั้งแต่ 35-50 ปี กว่า 60  % มีหนี้ส่วนบุคคล ตามด้วยหนี้เช่าซื้อรถและหนี้บัตรเครดิต รวมถึงหนี้บ้าน ที่กินระยะเวลาผ่อนค่อนข้างนาน 

จึงทำให้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องแบกรับภาระหนี้เฉลี่ยสูงถึง 154,000 บาทต่อคน 



นอกจากนี้ยังพบอีกว่าปัจจุบันนี้อายุเฉลี่ยของลูกหนี้มีแนวโน้มลดลง หรือเรียกได้ว่าเป็นหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย

และพบว่า วัย First Jobber หรือคนที่เพิ่งเริ่มทำงานเพิ่งหาเงินได้ อายุ 20-22 ปี ส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการเป็นหนี้

มอเตอร์ไซค์และหนี้ส่วนบุคคล แถมบัญชีกว่า 20-30% ของทั้งหมดเป็น "หนี้เสีย"


ขณะเดียวกันอีกกลุ่มที่น่าห่วง คือ "หนี้ของวัยเกษียณ" เพราะผู้สูงอายุมากถึง 1 ใน 3 ยังต้องจ่ายหนี้  และมากกว่า 10% เป็นหนี้เสีย หรือไม่มีเงินจ่าย และกลุ่มนี้กำลังกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง เพราะไม่สามารถหารายได้แล้วในช่วงบั้นปลายชีวิต สวนทางกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ที่นับวันจะเพิ่มขึ้นตามอายุ 

โดยข้อมูลจาก NCB พบว่า ในปี 2567 กว่า 29% ของประชากรที่มีอายุระหว่าง 60-80 ปี ยังคงมีหนี้ในระบบ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่อยู่ที่ 20% เฉลี่ยสูงถึง 102,000 บาทต่อคน 


ttb analytics มองว่าหนี้ครัวเรือนไทยตอนนี้ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยทุกช่วงวัยกำลังประสบปัญหา “รายได้โตไม่ทันรายจ่าย” กระทบต่อความสามารถชำระหนี้ ก่อหนี้วนไปเช่นนั้น จนกลายเป็นหนี้พอกเรื้อรัง 


ปัญหาเรื่องหนี้ หรือหนี้ครัวเรือนไทย จึงถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่ความฝันของผู้นำหรือรัฐบาลเท่านั้น เพราะการแก้ไขต้องทำให้ได้ถึงโครงสร้าง ตั้งแต่เศรษฐกิจไปถึงสังคม ให้รายได้โตไวกว่าจ่าย ขณะเดียวกันผู้คนก็ต้องถูกปลูกฝังในด้านวินัยทางการเงิน เพื่อความยั่งยืน 

avatar

ทิฆัมพร อยู่กำเหนิด