สรุปข่าว
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนา Thailand Next Move 2025 : Resiliency for an Uncertain World รับมือบริบทโลกใหมที่ไม่นิ่ง ที่ จัดโดยสำนักข่าววารสารการเงินธนาคาร ว่า โลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอนสูง เห็นได้จากการที่เศรษฐกิจโลกแตกแยกกระจายตัวออกเป็นส่วน ๆ หรือ geoeconomic fragmentation ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนการค้าโลกและการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลง, นโยบายเศรษฐกิจและนโยบายการเงินประเทศหลักไม่เป็นไปทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งผ่านพ้นการเลือกตั้ง ซึ่งนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่จึงยังมีความไม่แน่นอน และน่าจับตา ทั้งการขึ้นภาษีนำเข้า การลดภาษีให้ชาวอเมริกาทำให้เกิดการขาดดุลในอนาคต ส่งแรงงานกลับประเทศ
โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อผลต่ออัตราเงินเฟ้อของอเมริกาสูงขึ้นและกลับสู่เป้าได้ยาก ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งนำไปสู่ผลข้างเคียงที่คาดไม่ถึงต่อประเทศไทยในหลากหลายมิติ ทั้งภาคการผลิตที่ลดลง นำเข้าสินค้ามากขึ้น การเติบโตสินเชื่อลดลง
ดังนั้น ธปท. จึงต้องดำเนินนโยบายให้ Resiliency หรือดำเนินนโยบายแบบยืดหยุ่น รองรับได้หลายสถานการณ์ ไม่ดำเนินนโยบายใดนโยบายหนึ่ง ต้องดูเสถียรภาพอย่างรอบด้านควบคู่ไปกับมาตรการอื่นๆ และมองไปยังสถานการณ์ข้างหน้า
นอกจากนี้ ยังสร้างภูมิคุ้มกันทางเงิน โดยการออกมาตรการสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible lending) ส่วนในวันที่ 11 ธันวาคม 2567 นี้ จะประกาศมาตรการ ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย หรือ SMEs เพิ่มเติม ซึ่งเป็นมาตรการใหม่ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน รวมถึงเน้นย้ำด้านดิจิทัล ที่จะสร้างความยืดหยุ่นให้กับประเทศและเศรษฐกิจด้วยระบบ payment ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องทั้งระบบพร้อมเพย์ภายในประเทศ และขณะนี้ได้มีการพัฒนาระบบ cross border payment ที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ เพื่อรองรับการใช้จ่าย ซึ่งระยะต่อไปจะพัฒนาระบบ QR payment เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้และอินเดียในปี 68
รวมทั้งจะนำระบบ payment ตอบโจทย์ให้รายย่อยเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นด้วยระบบกลไกค้ำประกัน จากโครงการ NaCGA ซึ่งจะเปิดรับฟังความคิดเห็นในปี 68
ที่มา TNN
ที่มาข้อมูล : -