สรุปข่าว
“นีล แคชคารี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขามินนิอาโปลิส กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ CBS เกี่ยวกับคำมั่นในการหาเสียงของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเนรเทศผู้อพยพที่อาศัยในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย ว่า นโยบายเนรเทศแรงงานต่างด้าวอย่างกว้างขวางอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจบางแห่ง แต่ผลกระทบต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโดยรวมจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดของนโยบาย
เขากล่าวว่า หากสันนิษฐานถึงผู้อพยพที่กำลังทำงาน ไม่ว่าจะทำงานในฟาร์มหรือในโรงงาน และธุรกิจเหล่านั้นต้องสูญเสียพนักงานไป ก็น่าจะเกิดความวุ่นวายกันบ้าง อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้นโยบายดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนมากนัก และท้ายที่สุดภาคธุรกิจ สภาคองเกรส และฝ่ายบริหารก็จะต้องหาทางออก
ทั้งนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่ง “ทรัมป์” จะดำรงตำแหน่งสมัย 2 เป็นเวลา 4 ปี อาจสร้างความไม่แน่นอนให้แก่เฟด ซึ่งกำลังพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องหลังจากอัตราเงินเฟ้อใกล้แตะเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดก็ปรับลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 4.5-4.75 ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 หลังจากลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
“แคชคารี” กล่าวว่า แม้ปัจจุบันจะคาดกันว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 ในการประชุมเดือนธันวาคม แต่เฟดจำเป็นต้องพิจารณาว่าข้อมูลเป็นอย่างไรก่อนตัดสินใจ
นอกเหนือจากนโยบายเรื่องผู้อพยพ “ทรัมป์” ประกาศจะเก็บภาษีสินค้านำเข้า และพยายามลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งอาจทำให้การขาดดุลงบประมาณสูงขึ้น ซึ่ง “แคชคารี” มองว่า นโยบายดังกล่าวจะมีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างไรก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดและปัจจัยต่าง ๆ อาทิ การตอบสนองของประเทศอื่น ๆ ต่อกำแพงภาษีของสหรัฐฯ
โดยภาษีที่เรียกเก็บจากการนำเข้าสินค้าอาจทำให้ราคาเพิ่มขึ้นเพียงครั้งเดียว ไม่มีผลกระทบต่อเงินเฟ้อในระยะยาว แต่จะกลายเป็นความท้าทายหากมีการตอบโต้กัน
ที่มาข้อมูล : -