โรงแรมไทย วิตกฝีดาษลิงทุบซ้ำท่องเที่ยว | ย่อโลกเศรษฐกิจ

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า ด้วยธุรกิจโรงแรมเพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ได้ไม่นาน จึงค่อนข้าง “ตื่นตระหนก” เมื่อทราบข่าวการระบาดของฝีดาษลิง และพบผู้ป่วยในไทยแล้ว ทั้งยังเป็นโรคที่สามารถติดต่อจากละอองฝอยผ่านทางเดินหายใจ เช่น การไอ และการจามได้ นอกเหนือจากการสัมผัสการคัดหลั่งของผู้ป่วย สัมผัสของใช้ของผู้ป่วย และการสัมผัสผู้ป่วยที่มีผื่น ตุ่ม หนอง หรือแผล เอกชนท่องเที่ยวต้องการให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการรับมือการระบาดของฝีดาษวานร เช่น สนามบินมีจุดกักกัน คัดกรองคนที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม เพราะภาคท่องเที่ยวไม่อยากเจ็บซ้ำเหมือนวิกฤติโควิดที่ผ่านมา

นอกจากนี้ สมาคมฯยังคงกังวลสถานการณ์สงคราม ที่น่าจะเรื้อรังในระยะยาว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งประเมินว่าช่วงฤูดูท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้จนถึงไตรมาส 1 ปีหน้า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังเดินทางจับจ่ายเงิน แต่น่าจับตาว่าในปี 2568 เศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวมากแค่ไหน

โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีน ที่ฟื้นตัวช้า ทางการจีนเน้นโปรโมตให้คนจีนเที่ยวในประเทศ และได้ยินมาว่าคนจีนกลุ่มเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกได้รับการอนุมัติหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ค่อนข้างยาก ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์และนิยมเลือกเดินทางมาประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรกของการเที่ยวต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม มองว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจะเข้าป้าย 36 ล้าน 7 แสนคนคนตามเป้าหมายของรัฐบาลได้อยู่แล้ว แต่จุดที่น่ากังวลคือค่าใช้จ่ายต่อคนยังต่ำ น้อยกว่าปี 2562 ก่อนโควิดระบาดด้วยซ้ำ ทำให้รายได้รวมการท่องเที่ยวไทยตลอดปี 2567 จะไปถึงเป้าหมาย 3 ล้าน 5 แสนล้านล้านบาทหรือไม่นั้น นับว่าเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก

ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 ส.ค. 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสม 22 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วมากกว่า 1 ล้านบาท 

ที่มาTNN