
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยวันนี้ ( 13 มี.ค. 68 )ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ระดับ 57.8 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบมาจาก ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ภายใต้นโยบาย Trump 2.0 ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกปรับตัวลดลง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ประชาชนยังมองว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดกว่าที่คาด

สรุปข่าว
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ลดลงในทุกด้าน
• ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยโดยรวม : 51.5
• ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางาน : 55.2
• ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต : 66.7
ดัชนีทั้งหมดลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังมองว่าเศรษฐกิจไทยไม่ฟื้นตัวเร็วพอ และค่าครองชีพยังสูง ขณะที่ปัญหาสงครามการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต
3 ปัจจัยหลักที่ฉุดความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.
1. เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด – แม้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้น เช่น โครงการโอนเงิน 10,000 บาท, คุณสู้ เราช่วย, Easy E-Receipt แต่ประชาชนยังไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว
2. สงครามการค้า (Trade War 2.0) กดดันตลาดหุ้น – สหรัฐฯ ใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ส่งผลให้หลายประเทศตอบโต้กลับ กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค
3. สถานการณ์การเมืองภายในประเทศไม่แน่นอน – ประชาชนกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม ต้องจับตาไตรมาส 2 – มาตรการสหรัฐฯ อาจกระทบไทยโดยตรง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า แนวโน้มความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาจลดลงต่อเนื่องในเดือนมีนาคม หากสงครามการค้าทวีความรุนแรง โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2 ต้องติดตามว่าสหรัฐฯ จะออกมาตรการใหม่เพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งไทยอาจได้รับผลกระทบโดยตรงจาก การถูกขึ้นภาษีสินค้า เนื่องจากไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูง นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังมีท่าทีแข็งกร้าวต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน เช่น กรณีอุยกูร์ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของไทยในอนาคต
ที่มาข้อมูล : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ที่มารูปภาพ : Getty Images